最近很火的泰剧《天生一对》真是不仅带给大家视觉上的新体验,也让大家有机会更好地了解泰国大城时期的文化、生活等等。今天小编带大家跟随这部剧的脚步,了解大城时期泰国有些什么文化和习俗。

เรื่องราวจากละคร"บุพเพสันนิวาส" ที่กำลังเป็นกระแสมาแรง นอกจากความสนุกก็ยังมีในเรื่องของประวัติศาสตร์ ที่สอดแทรกสาระความรู้ เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่และประเพณีบางอย่างในสมัยอยุธยา ซึ่งวันนี้ขอนำท่านมาย้อนรอย รู้จักวัฒนธรรมและประเพณีสมัยกรุงศรีอยุธยา ว่าเป็นเช่นไร
正在热播的电视剧《天生一对》,除了有趣之外还包含了关于大城时期一些生活和传统习俗的历史知识,今天我们来带各位回到过去,去了解一下大城时期的文化和风俗是什么样的。

 

 

ย้อนเวลากลับไปในปี พ.ศ. 2225 หรือย้อนไปประมาณ 300 กว่าปีที่แล้ว ในสมัยที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยาทรงครองราชย์ ในรูปสังคมนั้นโดยทั่วไปเป็นหมู่บ้านที่อุดมสมบูรณ์พอจะเพาะปลูกเพื่อยังชีพได้ เช่น บริเวณลุ่มแม่น้ำ มีลักษณะดังนี้
追溯到佛历2225年或者300多年以前,阿瑜陀耶国王统治的时期,那时的社会普遍是富饶的村庄,以种植业为生,比如低洼的河流区域,有这些特征:

 

ชีวิตความเป็นอยู่และประเพณีบางอย่างสมัยอยุธยา
一些大城时期的生活状况和习俗。


1. บ้านเรือนสร้างเป็นหลังขนาดย่อมๆ
 1、房屋建的规格较小。


2. ผู้หญิงต้องรับผิดชอบต่อครอบครัวมากกว่าผู้ชาย
2、女方比男方承担更多的家庭责任。


3. ชอบเล่นการพนันกันอย่างกว้างขวาง
3、喜欢很多人一起赌博。


4. ชอบสูบยาเส้น และสูบกันอย่างกว้างขวาง
4、喜欢抽烟丝,以及很多人一起抽。


5. นิยมให้ลูกชายได้ศึกษาเล่าเรียนโดยใช้วัดเป็นสถานศึกษา
5、喜欢让男生在寺庙接受教育。

 

ทาสสมัยอยุธยา
大城时期的奴隶

เป็นที่ยอมรับกันว่า สังคมอยุธยามีทาสไว้ใช้ ทาสเป็นชนชั้นอีกชนชั้นหนึ่งของสังคมสมัยอยุธยาและกฎหมายอยุธยาก็ได้ยอมรับการมีทาส จะเห็นว่า ทาสในสมัยอยุธยานั้น เป็นทาสที่ถูกกฎหมายคุ้มครอง เป็นทาสที่มีสภาพเป็นมนุษย์และเป็นพลเมืองของชาติ ฉะนั้นคนไทยในสมัยอยุธยาจึงสมัครใจจะเป็นทาสมากกว่าจะเป็นขอทาน เพราะอย่างน้อยก็มีข้าวกิน มีที่อยู่อาศัยโดยไม่เดือดร้อน
大家都承认大城时期有奴隶,奴隶是大城时期的社会阶层之一,并且当时的法律对于有奴隶这件事是接受的。可以看出大城时期的奴隶是受法律保护的,是一个自然人也是国家的公民,所以那时候的泰国,奴隶比乞丐多,因为至少有饭吃还有地方可以住,不至于太痛苦。

 

 

如今的泰国文化,融合了泰国本土文化、中国文化、印度文化、高棉文化,还有其他相近国家的文化。大城时期的也文化混合了泰国本土文化和来自他国的文化,最多的是印度文化。此外,大城时期还融合了其他泰王朝时期的文化,比如素可泰时期的文字。

 

วัฒนธรรมและประเพณีสมัยกรุงศรีอยุธยา
大城时期的文化和传统习俗

 

1. วัฒนธรรมการแต่งกาย
1、服饰文化

1.1 การแต่งกายของคนชั้นสูง คนชั้นสูงแต่งกายตามขนบธรรมเนียมประเพณีของราชการ ซึ่งเจ้านายหรือข้าราชการผู้ใหญ่ทั้งหลายใช้กัน และพวกผู้ดีมีสกุล ผู้หญิงทั้งหลายถือเป็นแบบอย่างเพราะแสดงให้เห็นว่าอยู่ในสังคมชั้นสูง
1.1地位高的人的服饰。地位高的人根据皇室习俗,皇亲国戚或高级官员全部一起使用。名门望族中的女性们都被视为模范,因为(那样穿)表明位于高阶层。

1.2 การแต่งกายของชาวบ้าน ชาวบ้านจะนุ่งโจงกระเบน พวกทางเหนือ ผู้ชายมักไว้ผมยาว ส่วนพวกทางใต้มักตัดผมให้สั้น สมัยสมเด็จพระนารายณ์ ผู้ชายตัดผมทรงมหาดไทย ส่วนผู้หญิงคงไว้ผมยาวและห่มผ่าสไบ
1.2 百姓的服饰。百姓穿绊尾幔,北方群体中男性一般留长发,而南方群体一般剪短发,那莱大帝时期男性剪mahadthai发型,而女性则留长发和披披肩。

1.3 การแต่งกายยามเกิดสงคราม ยามสงครามผู้หญิงอาจต้องช่วยสู้รบหรือให้การสนับสนุน มีการเปลี่ยนทรงผมตัดผมให้สั้นดูคล้ายชาย ทะมัดทะแมงเข้มแข็งขึ้น การนุ่งห่มต้องให้รัดกุม เคลื่อนไหวได้สะดวก ส่วนผู้ชายไม่เปลี่ยนแปลง
1.3发生战争时的服饰。战争时期女性可能要打仗或者给予支持,要改变发型,头发剪得像男生一样的短,强大起来。穿衣要严密,方便行动。至于男性穿衣没有变化。

 

 


大城时期重要的风俗:

2. กระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ประเพณีสำคัญที่นับเป็นพระราชพิธีสมัยกรุงศรีอยุธยา
2、泰国皇家船舰游行,皇室活动,大城王朝时期的重要习俗,

 

3. ประเพณีเดือนสิบเอ็ด
十一月习俗(赛船)

 

4. ประเพณีเดือนสิบสอง
4、十二月习俗(漂水灯、点灯迎神仪式、奉献僧布仪式……)

 

5. ประเพณีสงกรานต์
5、宋干节习俗(泼佛像、邀请僧人泼水……)

 

6. ประเพณีการลงแขกทำนา
农忙时节变工互助的习俗(农民们互相帮助收割稻谷、一起唱唱跳跳……)

 

7. วัฒนธรรมทางวรรณกรรม
文学作品方面的文化

ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีนั้น กรุงศรีอยุธยารุ่งเรืองมากที่สุด วัฒนธรรมทางวรรณกรรม ผู้เขียนวรรณกรรมสมัยเก่ามักจะขึ้นต้นเรื่องด้วยคำยกย่องพระเกียรติยศของพระ มหากษัตริย์ไทย และสรรเสริญความงามความเจริญของเมืองไทย
当大城是首都的时候,大城最繁荣。文学作品方面的文化:古时作者总是以赞扬僧人、泰国国王以及赞美泰国的美丽繁盛。

 

本双语文章的中文翻译系沪江泰语原创内容,转载请注明出处。中文翻译仅代表译者个人观点,仅供参考。如有不妥之处,欢迎指正