今日,一张网络上流传的“订婚”照片再次引发了泰国民众讨论的热潮。因为照片中订婚的双方还是在校的中学生。学生家长哭诉仅仅因为这张“订婚”照片,学生就被学校勒令“开除”;但是,校方坚称并没有开除学生,学生自动“退学”。事件的真相到底是怎样的,让我们一探究竟。

จากกรณีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return.v4 เพจเฟซบุ๊กชื่อดัง โพสต์ภาพภาพงานพิธีหมั้นชายหญิง ซึ่งระบุว่าเป็นนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง พร้อมข้อความว่า เด็กนักเรียนแค่หมั้นกันให้ถูกต้องตามประเพณี แต่ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนไล่ออก พร้อมบอกอยากเรียนให้ไปเรียนต่อที่ กศน.

日前,一个著名的Facebook主页“让你红”发表了一张订婚仪式的照片,并说订婚双方来自一所中学,按照习俗举行订婚仪式,但是被学校负责人开除了,并说他们该去非正规教育去上学。

 

ซึ่งพอเรื่องนี้ถูกโพสต์ขึ้น ได้รับความสนใจจากชาวสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก เนื่องจาก ไปขัดกับ พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2559 โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา และจะมีผลบังคับใช้อย่างจริงจังในประมาณเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานั้น แอดมินเพจดัง ระบุว่า เด็กทั้งคู่ต้องหมั้นกันเพราะไปผิดผีกันขึ้น ผู้ปกครองจึงตกลงให้เด็กหมั้นหมายกัน และเมื่อผู้อำนวยการทราบเรื่องก็ไล่นักเรียนทั้งสองคนออก กรณีนี้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง

这件事一经发表,就引来了大量网友的评论,因为这种做法违背了2016年修改的“未成年人”怀孕问题法案,修改后的法案已经在7月份正式生效。这个主页的维护者说,这对学生之所以要订婚,是因为担心违反风俗,父母才为他们举行订婚仪式。当学校负责人一得知此事就立即开除了两个学生,这也引发了人们不断地发表评论。

 

在校学生订婚,这个在我们看起来稍微有一点点荒谬的行为,在学生家长看来理所应当。但是学校显然不认为这样是正确的行为。事情到底是怎么回事?事件的各方到底有何表态?有记者也专门采访了事件中的各方,让我们继续看下去。

วันที่ 9 พ.ย. 61 ทีมข่าวเดินทางมาที่หมู่บ้าน ใน จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านของน้องนาย โดย นางสาวแน่งน้อย แม่ของน้องนาย เปิดเผยว่า น้องนายและน้องโม รักชอบกัน จึงมีการพูดคุยกันว่า ให้ทำพิธีให้ถูกต้อง

2018年11月9日,记者来到了事发地巴吞他尼府的一个村庄,这也是事件主人公之一Nai的家乡,Nai的母亲Neangnoi女士透露,Nai和No两个人互相喜欢,所以两家人才决定为他们举办订婚仪式。

ซึ่งตนก็ไม่อยากจับเด็ก 2 คนนี้แยกจากกัน กลัวว่าจะมีปัญหาในอนาคตตามมา ตนจึงได้จัดงานหมั้นให้วันที่ 19 ต.ค. 61 และพูดคุยกันว่า เรียนจบเมื่อไร จะจัดงานแต่งงานให้ และงานหมั้นเป็นงานที่จัดเฉพาะภายในครอบครัว ตนไม่ทราบว่ารูปงานหมั้นไปถึงผู้อำนวยการโรงเรียนได้อย่างไร นางสาวแน่งน้อย กล่าวต่อว่า ภาพเพิ่งจะหลุดไปถึง ผอ. เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยเป็นภาพน้องผู้หญิงใส่ชุดไทย นั่งกราบอกของเด็กผู้ชาย หลังจากนั้นครูที่ปรึกษาก็เชิญผู้ปกครองของฝ่ายชาย เข้าไปพูดคุย ติงว่าเด็กทำตัวไม่เหมาะสม ตอนแรกตนได้ยินก็ตกใจ

Nai的母亲也不想强行让两个孩子分开,担心将来会产生问题,所以就在10月9日举行了订婚,还说什么时候毕业,就为他们举行正式婚礼,订婚典礼也只是在家庭内部举行,自己并不知道订婚的照片是怎么流传到学校负责人手中的。Nai的母亲还说到,照片是在11月5日才到学校负责人手中的,是一张女学生身穿泰式服装合十跪拜在男学生胸前的照片。在事发之后,学校老师请了男学生的家长到学校沟通,批评学生行为不合适,自己听到也觉得很震惊。

 

หลังจากนั้นเขาก็นำรูปภาพมาให้ เมื่อตนเห็นก็ถามกลับไปว่า เหตุใดจึงไม่เหมาะสม ในเมื่อเด็กรักกัน ตนเกรงว่าหากจับแยก อาจจะปัญหามากกว่านี้ หรือบานปลาย กว่านี้หรือไม่ และถ้าหากเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นใครจะรับผิดชอบ ซึ่งคุณครูได้ชี้แจงกลับมาว่า เรื่องดังกล่าวนี้ขึ้นอยู่กับผู้ปกครองจะดูแลเด็ก และไม่ได้ฟังอะไร เพียงแต่บอกว่ากฎของโรงเรียน ถ้าทำผิดในเรื่องของชู้สาว จะมีการไล่ออก ส่วนภาพที่ออกมา ตนก็คิดว่าไม่ได้มีการกอดจูบกัน ซึ่งตนก็อยากให้ลูกได้ออกจากโรงเรียนแบบดี ๆ ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้ใบจบของโรงเรียน และทำให้ไม่สามารถไปสมัครเรียนที่ใหม่ได้ จึงต้องจำใจเซ็นใบลาออกเมื่อวานนี้ (8 พ.ย. 61)

当Nai的母亲看到照片之后就问老师哪里不合适,孩子们相爱,如果强行让他们分开,担心将来会出事,要是真的出了事谁来负责?老师反驳道,这样的事件应该由学生和学生家长负责,违反了学校规定就要开除。Nai的母亲认为照片中两个孩子没有拥抱也没有亲吻,自己也希望孩子能够好好从学校离开,如果是被开除没有毕业证将会影响孩子在其他学校的申请,所以也就在11月8日在退学文件上签了字。

 

ส่วนในวันที่ตนเข้าไปพบ ผอ. ก็ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน แต่รอง ผอ. ได้นำภาพถ่ายมาโยนใส่ และพูดว่า “เด็ก 2 คนนี้ ทำอนาจาร” พร้อมกับทำสีหน้ารังเกียจ ตนถามกลับไปว่า “กระทรวงศึกษาธิการออกกฎใหม่มาแล้วใช่หรือไม่ ว่าท้องก็สามารถเรียนต่อไปให้จบปีได้” แต่ได้คำตอบว่า “ไม่ได้ ในเมื่อภาพมันฟ้องว่ามีผัวมีเมียแล้ว”

Nai的母亲也见到了学校的负责人,但是并没有进行更多的沟通。学校的副负责人把照片扔过来,并且说:“两个学生这是淫秽色情!”还露出非常嫌恶的表情,她就反问道:“教育部是不是已经出台了新的法律,说学生怀孕也可以继续学习!”但是学校负责人的回答是:“不行!照片里已经显示两个人成为夫妻了!”

 

นายนฤนาท ผ่องศรีนวล ผู้อำนวยการโรงเรียนธัญรัตน์ เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องเมื่อเช้านี้ ว่ามีเพจโพสต์ข้อความว่าเด็กถูกโรงเรียนไล่ออก ตนก็รู้สึกงง เพราะขั้นตอนในการดำเนินงานในเรื่องนี้ยังอยู่ที่ฝ่ายปกครอง เพื่อหาทางช่วยเหลือเด็กนักเรียน ว่าถ้าเรียนต่อที่โรงเรียนนี้จะมีความสุขหรือไม่ ซึ่งอยู่ในช่วงหาทางออก แต่เรื่องต่าง ๆ ยังไม่มาถึงตน

学校负责人纳立纳•蓬斯侬表示到,自己是在今天早上才知道有FB主页发布两位学生被开除,自己也觉得很疑惑,因为退学的事宜取决于学生家长,评估学生是否应当继续留在学校学习。事件还在寻求解决途径的阶段,并没有转接到自己手中。

ส่วนใบคำร้องที่ผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2 คน ยื่นไว้ว่าขอย้ายสถานที่เรียนไปโรงเรียนอื่น ตนเองก็เพิ่งได้รับและยังไม่ได้เซ็นอนุมัติแต่อย่างใด ตนเองไม่เคยเจอเด็กทั้ง 2 คน ไม่เคยเจอผู้ปกครอง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการพูดคุยเรื่องของการไล่ออก ซึ่งโรงเรียนมีการส่งเสริมเพื่อให้เด็กเรียนจบและเป็นคนดีของสังคม ถ้าเด็กเกิดพลาดพลั้งอะไรที่ช่วยเหลือกันได้ ก็ต้องช่วยอยู่แล้ว ส่วนการไล่ออกไม่มีอยู่แล้ว ตนยืนยันได้ ตนรักเด็กทุกคนเหมือนลูก

关于两位家长申请为学生更换学校的申请,自己也是刚刚收到,还没有签字批准,自己也从未见过两位学生和学生家长,所以也不可能有关于开除学生的交谈。学校希望学生能够毕业,成为社会的栋梁之才,如果学生犯的错误可以纠正,学校肯定会帮助,根本没有开除这回事,自己也以保证,自己像爱亲生孩子一样爱每位学生。

 

จากนั้น ทีมข่าวเดินทางมาที่โรงเรียนธัญรัตน์ ใน ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดย ครูชลธาร รวมธรรม ครูฝ่ายปกครอง เผยกับว่า โรงเรียนไม่มีนโยบายไล่เด็กนักเรียนออก หากไม่มีพฤติกรรมถึงขั้นเสพยาเสพติด ทะเลาะวิวาท และเรื่องชู้สาวแบบชัดเจน

之后,记者来到了位于巴吞他尼府的事发学校,见到了学校管理处的老师,老师说到,如果学生没有毒品、斗殴闹事和证据确凿的早恋事件,学校是不会开除学生的。

แต่เด็ก 2 คนนี้ มีพฤติกรรมเข้าข่ายไม่เหมาะสม เช่น จับมือกันเดินในโรงเรียน และอยู่กันสองต่อสอง ซึ่งวัยนี้ควรจะอยู่กับเพื่อน ในฐานะครูฝ่ายปกครอง กลัวเด็กในโรงเรียนมองไม่ดี และมีพฤติกรรมเลียนแบบ

但是这两个学生有很多不合适的行为,比如在学校里手牵手、两个人单独相处,但这个年纪的学生应该多与朋友共同相处。作为学生管理的老师,自己害怕这两位学生带动不好的风气,其他同学也来效仿。

 

และรูปงานหมั้นของเด็กทั้ง 2 คนหลุดมา เพราะเด็กคนอื่นในโรงเรียนนำมาโพสต์ และหลุดไปในสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก จึงเรียกผู้ปกครองของเด็กมาพบเพื่อปรึกษา และอธิบายให้ผู้ปกครองของเด็กผู้ชายฟัง และอธิบายลักษณะของเด็ก เมื่ออยู่ในโรงเรียนมีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง จะให้เด็กเปลี่ยนบรรยากาศในการเรียนไหม เปลี่ยนเส้นทางไปเรียน กศน. หรือไปหาโรงเรียนที่จะอยู่ด้วยกันมั้ย ซึ่งผู้ปกครองเข้าใจในเรื่องนี้ที่ตนอธิบาย และบอกว่ารอให้ ผอ. ชี้ขาดว่าเป็นอย่างไรต่อไป และผู้ปกครองก็บอกกับตนว่าไม่รอแล้ว ฟังครูแล้วเข้าใจ และมีการเขียนใบคำร้องขอลาออกขึ้น โดยในวันนั้น ครอบครัวฝ่ายชายเซ็นก่อน เพราะแม่ของน้องผู้หญิงอยู่ต่างจังหวัด และตามมาเซ็นทีหลัง

学生订婚的照片是由学校其他学生发布出去的,导致了在网络上的大量流传,学生的家长已经来当面沟通过,自己也给男学生的家长解释了学生在学校的表现,询问是否要让学生换个学习环境,要不要去成人学校读书,或者找一所学校让两个孩子一起上学。学生家长了解了情况之后,老师表示将等待学校负责人的决断,但是学生家长说不等了,明白情况了,希望能从学校退学。当天男学生家长先签了退学文件,女学生的家长后来也前来签字。

 

ครูชลธาร ยืนยันว่า โรงเรียนไม่เคยมีการไล่ออกในเรื่องของชู้สาว แต่กรณีนี้เป็นการที่ผู้ปกครองเด็กมาตักเตือน และครอบครัวเด็กลาออกเอง ทั้งนี้ ในเรื่องของการดูแลเด็ก ผู้ใหญ่ไม่ควรเอาความคิดของตัวเองไปตัดสินว่าเด็กจะต้องหมั้น เพราะเด็กในวัยนี้ยังคิดเองไม่ได้ และถือว่าพลาดพลั้งไปแล้ว

老师强调,学校没有因为此事开除学生,学生是自动退学的。总之,在培养学生的过程中,监护人不应当按照自己的意志判定孩子是否应当结婚,这个年纪的孩子思想还不健全,这显然是错误的。

 

但是,事件当中的女学生显然对学校老师的表态非常不满,认为学校老师歪曲了事实的真相。

 

ล่าสุด เด็กนักเรียนหญิงที่ปรากฎในภาพถ่ายดังกล่าว ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว ตำหนิคุณครู เนื่องจากคำให้สัมภาษณ์ขัดแย้งจากเหตุการณ์ที่ประสบมา

最近,事件中的女学生通过个人Facebook账号发布了一段文字,指责老师在接受采访的时候扭曲事实真相。

โดยระบุว่า "คุณรู้ไหมสิ่งที่คุณพูดออกมามันคือเรื่องโกหกทั้งหมด คุณรู้ความจริง คุณรู้ว่าคุณพูดอะไรกับพ่อแม่ของเราในวันนั้น แต่ทำไมวันนี้คุณถึงพูดแบบนี้ พูดกลับกลอกไปหมด ไม่เหมือนวันที่เข้าไปคุย คุณใส่ร้ายเราทุกอย่าง แม้คุณไม่เห็นเรา เเต่คุณสามารถพูดได้ไง ว่าเราเดินจับมือกันและอยู่ด้วยกันสองต่อสองในโรงเรียน ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องจริงเลยสักนิด ผิดหวังมากกับอาจารย์โรงเรียนธัญรัตน์" ข้อความดังกล่าวมีผู้เข้าไปแสดงความเห็น และให้กำลังใจนักเรียนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เจ้าตัวยังนำรูปภาพพิธีหมั้นที่ตกเป็นข่าว เผยแพร่ผ่านเฟสบุ๊กและใช้เป็นรูปภาพหน้าปกของโพรไฟล์ส่วนตัวอีกด้วย

“你知道吗,你所说的一切都是在欺骗,你知道真相,你知道你在那天和我们父母说了什么,但是现在你怎么这么说,全部相反,和那天说的不一样,你在污蔑我们,既然你都没有见过我们,怎么能说我们牵手、在校园里单独相处,这根本就不是真相,对学校里的老师太失望了!” 上述的内容引来了很多人的评论,大家也纷纷鼓励这位女学生。除此之外,她还将引发一系列事件的“订婚照片”设置为了自己的头像。

 

这次的“订婚”事件也引发了我们的思考,在校学生举行订婚典礼到底合不合适?而学校如此的处理方式又是否合理?虽然目前双方还是各执一词,但相信每个人心中都会有一个答案。

 

声明本双语文章的中文翻译系沪江泰语原创内容转载请注明出处。中文翻译仅代表译者个人观点仅供参考。如有不妥之处欢迎指正。