了解泰国文化的人一定知道 ทอดกฐิน 这个宗教节日,有很多种翻译方式,比如敬献僧衣节、供僧衣节、供僧大会等等,现在很多信仰南传佛教的国家都保留着这个节日。不知道各位小伙伴有没有参加过,参加过的人有没有留意过仪式中鳄鱼旗的来历呢?这个佛教节日和鳄鱼又有什么关系呢?一起来看看吧!



เมื่อถึงช่วงของการทอดกฐินจะเห็นว่าตามวัดต่าง ๆ นอกจากจะนำธงชาติและธงธรรมจักรไปติดไว้ที่วัดแล้ว ก็จะนำธงมัจฉา ธงตะขาบ หรือธงจระเข้ แขวนหรือปักไว้ที่วัดด้วย แล้วเพราะเหตุใดจึงติดธงเหล่านี้?
当到敬献僧 衣节的时候,就会看到各个寺庙除了挂出国旗和法轮旗之外,还会拿出人鱼旗、蜈蚣旗、鳄鱼旗,会挂或者插在寺庙上,为什么会有这些旗子呢?

ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดถึงคติความเชื่อเรื่องนี้ แต่กล่าวกันว่ามีอุบาสกคนหนึ่งไปทอดกฐินทางน้ำ ใช้ขบวนเรือแห่กฐิน ครั้งนั้นมีหมู่สัตว์น้ำทั้งหลายตามขบวนกฐินไปด้วย มีมัจฉา ตะขาบ จระเข้ เป็นต้น แต่ไม่สามารถจะตามขบวนกฐินไปถึงในวัดได้ ด้วยความเลื่อมใสในพระศาสนา จึงอ้อนวอนให้อุบาสกนั้น เขียนรูปตนเข้าในบริวารกฐินด้วย อุบาสกเห็นว่าสัตว์ทั้งหลายก็อนุโมทนาบุญของตน จึงเขียนรูปไว้ แล้วเรื่องนี้จึงได้ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา
关于这种信仰没有明确的证据,但是有人说是因为有一位佛教徒用船队运输僧衣并通过水路去敬献僧衣,当时有很多水生生物一起跟着船队前行,有人鱼、蜈蚣、鳄鱼等等,但是它们无法跟着船队将僧衣送到寺庙去,这些动物都非常虔诚,所以乞求这位信徒能够把有自己样子的图片和僧衣放到一起敬献,这位佛教 徒认为这些动物对自己有恩德,所以就画了它们的图像,后面的人就继承了这一习俗。

โดยสำหรับธงจระเข้นั้น นิยมทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมพื้นผ้ายาวประมาณ 2 ศอก กว้าง 1 ศอก ปลายทั้งสองข้างเย็บเป็นซองขวางผืนธง เพื่อสอดไม้สำหรับผูกหรือแขวนตอนบนข้างหนึ่ง และถ่วงชายธงตอนล่างข้างหนึ่ง ในผืนธงจะเขียนรูปจระเข้คาบดอกบัว 3 ดอก ลำตัววางตามความยาวธง เอาหัวไว้ข้างบน หางเหยียดลงไปทางปลายธง
鳄鱼旗一般会用长方形的布制成,长约1米,宽约0.5米,旗子的两侧都会封起来为了插木棍或者把旗子挂起来,旗子的下面边缘垂下来。旗子 上会画上鳄鱼的图像,嘴里叼着3朵莲花,鳄鱼的身体顺着旗子长边下来,头向上,尾巴朝向旗子的边缘。




ซึ่งตำนานธงจระเข้มีหลายเรื่องเล่า แต่ละเรื่องเล่าก็มีความคล้ายคลึงกับเรื่องข้างต้น ดังนี้
关于鳄 鱼旗有很多个传说,和上面提到的故事也很相似。


1. ในสมัยโบราณ การเดินทางต้องอาศัยการดูทิศทางจากดวงดาว เช่น ในการเคลื่อนขบวนทัพในตอนจวนสว่าง ต้องอาศัยดาวจระเข้ซึ่งขึ้นในช่วงนั้นพอดี การทอดกฐินในสมัยนั้นบางทีต้องไปทอดกฐิน ณ วัดซึ่งอยู่ห่างไกล จึงต้องอาศัยดูทิศทางจากดาวจระเข้ ซึ่งพอดาวจระเข้ขึ้นก็เริ่มเคลื่อนขบวนกฐิน และเดินทางไปถึงวัดเมื่อสว่างพอดี ต่อมาจึงมีผู้คิดทำธงประดับองค์กฐิน โดยถือว่าดาวจระเข้เป็นดาวบอกเวลาเคลื่อนองค์กฐิน
1. 在古代,赶路辨别方向需要借助星星,比如在黎明快天亮的时候前进,需要看正挂在天上的鳄鱼星,当时敬献僧衣需要到很远的寺庙去,所以就需要借助鳄鱼星来辨别方向,当鳄鱼星刚升起的时候开始前进,在天亮的时候刚好走到寺庙,后来有人发明了旗子来装饰僧衣,将指路的鳄鱼星当作敬献僧衣仪 式中的一部分。

2. มีนิทานโบราณว่า เศรษฐีผู้หนึ่งเป็นคนขี้เหนียว ไม่เคยคิดทำบุญสร้างกุศล นำสมบัติไปฝังไว้ที่ท่าน้ำหน้าบ้าน ครั้นตายลงจึงไปเกิดเป็นจระเข้เฝ้าสมบัติของตน ได้รับความทุกขเวทนามาก จึงไปเข้าฝันภรรยาให้มาขุดสมบัติไปทำบุญกุศล ภรรยาจึงจัดให้มีการทอดกฐิน จระเข้เศรษฐีนั้นก็บังเกิดความยินดี ว่ายน้ำตามขบวนเรือแห่องค์กฐินไป แต่ยังไม่ทันถึงวัดก็หมดแรงไปต่อไม่ไหว จึงบอกภรรยาให้วาดรูปจระเข้ใส่ในธงไปแทน
2. 古代的故事讲到,有一位非常抠门的富豪,从来没有想过要做任何功德,将财富都埋在了家前面的码头边,死了之后就变做一条鳄鱼,守着埋在岸边的财产,非常痛苦,于是托梦给自己的妻子,让她把所有的财产都拿去做功德,她的妻子就敬献了僧衣,这位富豪也做了功德,跟着敬献僧衣的队伍前进,但 是没有到就筋疲力尽了,就告诉妻子在旗子上画上鳄鱼代替他。



3. เป็นเรื่องเล่าคล้ายคลึงกับสองเรื่องก่อนหน้านี้ โดยเล่าต่างออกไปว่า มีอุบาสกคนหนึ่งนำองค์กฐินแห่ไปทางเรือ มีจระเข้ตัวหนึ่งอยากได้บุญในการทอดกฐิน จึงว่ายน้ำตามเรืออุบาสกนั้นไปด้วย ไปได้พักหนึ่งจึงบอกแก่อุบาสกว่า ตนตามไปด้วยไม่ได้แล้ว เพราะเหนื่อยอ่อนเต็มที ขอให้อุบาสกจ้างช่างเขียนภาพของตนที่ธง แล้วยกขึ้นไว้ในวัดที่ไปทอดกฐินด้วย อุบาสกทำตามคำขอของจระเข้ ธงจระเข้จึงปรากฏมานับแต่นั้น
3. 这个传说和之前的故事很类似,讲到,有一位佛教徒坐船去敬献僧衣,有一只鳄鱼也想去敬献僧衣做功德,所有就跟着这位佛教徒的船,跟了一段之后就 和佛教徒说自己去不了了,因为已经筋疲力尽了,希望佛教徒找个画像师傅把自己画在旗子上一起敬献到寺庙去,这位佛教徒就按照鳄鱼说的做了,于是出现了鳄鱼旗。

4. เป็นกุศโลบายของคนโบราณ โดยการกฐินแห่ไปในขบวนเรือต้องเดินทางไปตามลำน้ำ ซึ่งมักมีอันตรายจากสัตว์น้ำต่าง ๆ เช่น จระเข้ขึ้นมาหนุนเรือให้ล่มบ้าง ขบกัดผู้คนบ้าง คนสมัยก่อนจึงหวั่นเกรงภัยเช่นนี้ จึงคิดอุบายทำธงจระเข้ปักหน้าเรือไปเป็นทำนองประกาศให้สัตว์ร้ายในน้ำ เช่น จระเข้ ให้รับทราบการบุญการกุศล จะได้พลอยอนุโมทนาและมีจิตใจอ่อนลง ไม่คิดทำอันตรายแก่ผู้คนในขบวนเรือ
4. 是古代人的智慧,当时敬献僧衣需要通过水路进行,经常会有鳄鱼等水生动物制造麻烦,比如打翻船或者咬伤人,当时的人很害怕这样的事情出现,于是就想出了画鳄鱼旗放在船前,好比说让鳄鱼这样凶猛的动物成为做功德的一部分,这样才能让鳄鱼一起祈祷,让它心软不去伤害别人。


下次有机会参加献僧衣仪式的时候看看有没有鳄鱼旗哦!

声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自silpa-mag,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。