大家都知道,泰语其实是一种有着“等级”的语言,不同语境下、不同说话对象时可能都会导致我们使用的词不一样,就连“吃”这个简单的动词也有好多种说法,不知道大家都掌握了哪几种呢?而在这些五花八门的用法中,รับประทาน可谓是处在金字塔顶端的了,它最为正式,那你知道这个词是怎么来的吗?又为什么拿来指代“吃”呢?

(音频-可在沪江泰语公众号中收听)
朗读:朗读:(泰)ฟ้าใส

ทุกชาติทุกภาษาทั่วโลกรู้จักคำว่ากิน และมีศัพท์เฉพาะเรียกกริยานั้น เช่น อังกฤษว่า Eat ฝรั่งเศสว่า Manger เวียดนามว่าอัง จีนว่าชื่อะ มอญว่าเจีย เขมรว่าซี มาเลย์ว่ามะกัน ไม่เห็นมีใครละอายกัน
世界上的每个民族每种语言都知 道吃这个词,对这个动作也有专门的词汇,比如英语叫做Eat ,法语叫做Manger ,越南语叫做Ang,中文叫做吃,孟语叫做Cia,高棉语叫做Chee,马来语叫做Makan,没有谁是没有这个词的。

คนไทยก็เช่นกัน อาหารการกินเป็นชีวิตจิตใจ และชาวบ้านมีคำว่ากิน ไม่เห็นน่ารังเกียจตรงไหน แต่ในสังคมสมัยปัจจุบัน “ผู้ดี” ละทิ้งคำว่ากิน ว่าหยาบคายแล้วนำคำรับประทานมาใช้เป็นกริยา หมายถึง “ผู้ดี” ขยับข้าวปลาเข้าปาก
泰国人也一样,饮食是生命重要 的部分,普通民众用กิน 这个词,不觉得有什么令人厌恶的,但是现在泰国社会上一些"上流人士"抛弃了这个词,认为不文雅,选择了รับประทาน /rap4pra2thaan1/这个词来指代他们把食物送进嘴里嚼的动作。

แปลกดีไหม? คำว่ารับประทานโผล่มาจากไหน?
奇怪吗?รับป ระทาน/rap4pra2thaan1/是从哪冒出来的呢?

 

หลักฐานนิรุกติศาสตร์
语源 学证据

คำว่าทาน (Dāna) เป็นคำนาม หมายถึงของที่ให้ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งของที่คนมีมอบให้คนอนาถา (Alms, Charity) การตักบาตรหรือเลี้ยงพระคือทาน (Dāna) ในพุทธศาสนา และทุกศาสนาถือว่าการให้ทานแก่ผู้ขัดสนเป็นคุณอันประเสริฐ
ทาน (Dāna) /thaan1/是名词,意思是“给的东西”,尤其是指送给十分可怜之人的东西或是佛教中的斋僧,每个宗教都把接济贫苦的人视为一种美德。

คำว่าประทาน เป็นกริยา หมายความว่ามอบให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ท่านผู้ใหญ่ยกของมีค่าให้ผู้น้อย เช่น “ท่านประทานรางวัลแก่ผู้ชนะ” ดังนั้นเมื่อใคร “รับประทานกล้วย” ก็น่าสงสัยว่า ท่านผู้ใดประทานกล้วยนั้นไป?
ประทาน /pra2thaan1/是动词,意思是“给予,送给”,尤其是社会阶层高的人向社会阶层低的人送有价值的东西,比如“他为获奖者颁奖”,因此,当有人说:“吃香 蕉”的时候,就很奇怪,香蕉是谁赠与的呢?

ภาษาไทย (สันสกฤต) ยังมีอีกคำคล้ายประทาน คือประสาท ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน เช่น ในวลี ประสาทพร ประสาทปริญญา คำนี้ยังปรากฏในพิธีกรรมพราหมณ์-ฮินดู
泰语(梵语)还有和ประทาน/pra2thaan1/ 类似的词,那就是ประสาท /pra2saat2/,意思也相近,例如在ประสาทพร /pra2saat2 phɔɔn1/ ประสาทปริญญา /pra2saat2 pa2rin1yaa1/这样的短语中,这个词在婆罗门-印度教的仪式中也有出现。

 

หลักฐานจากเทวสถาน
来自神庙的证据

สาธุชนชาวฮินดูที่หมายจะบูชาเทพเจ้าย่อมซื้อ “กระจาดบูชา” ที่ประกอบด้วยธูป เทียน กล้วย อ้อย มะพร้าว เครื่องหอม และธนบัตร พ่อพราหมณ์จะนำกระจาดเข้าไปถวายเทพเจ้าในปราสาท เก็บส่วนที่เป็นของพราหมณ์แล้วท่านจะนำเศษกล้วย อ้อย มะพร้าว ออกมา ยกเศษนั้นให้สาธุชน เศษกล้วย อ้อยนั้น นัยหนึ่งเรียกว่า Mangalam (มังคลัม) คือของศักดิ์สิทธิ์ อีกนัยว่า Prasādam (ประสาท) คือของที่เทพเจ้าทรงประสิทธิ์ประสาทมาเป็นเครื่องมงคลประดับความเจริญในชีวิต สาธุชนย่อมรับประทานเองบ้างและนำกลับไปให้ญาติรับประทานที่บ้าน
有宗教信仰的印度人祭拜神仙的时候都会用篮子,里面有香、蜡烛、香蕉、甘蔗、椰子、香料和现金,婆罗门会将篮子拿到石宫中祭拜天神,留下天神的部分,将剩余的香蕉、甘蔗、椰子拿出来,送给信徒们。剩余的香蕉、椰子,可以叫做Mangalam(มังคลัม),意思是神圣的物品,也可以叫ว่า Prasādam (ประสาท),意思是天神赐予的让生活更美好的圣物,信徒们会自己吃掉一部分,然后拿一部分回去给亲戚家人。

“ประสาทัม” หรือ “ประทนัม” บูชาเสร็จแล้วพราหมณ์คืนเศษ (มังคลัม) ให้สาธุชน ณ วัดพระศรีมาริยัมมัน (วัดแขก) ถนนสีลม บางรัก กรุงเทพมหานคร
曼谷Bangrak区Silom路Sri Mariamman寺,祭拜完之后,婆罗门将剩余的贡品分发给信徒。

พิธีโหมกูณฑ์ ณ วัดพระศรีมาริยัมมัน (วัดแขก) ถนนสีลม บางรัก กรุงเทพมหานคร
曼谷Bangrak区 Silom路Sri Mariamman寺火祭仪式

หลักฐานจากเทวสถานฮินดูอาจจะสำคัญ เพราะท่าน “วิศวมิตร์” เคยเสนอว่า ราชาศัพท์ของสยามหลายสำนวนแปลมาจากทมิฬคำต่อคำ
来自印 度教神庙的证据非常重要,因为众友仙人曾经说过,很多暹罗的王室用语都是根据泰米尔语逐词翻译过来的。

 

ข้อสันนิษฐานจากสยาม
来自 暹罗的推测

1.สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ข้าราชการผู้ใหญ่ที่มาอยู่เวรในวังหลวงคงขัดสนเรื่องเสบียงอาหาร จะนำปิ่นโตเข้าไปก็ไม่ควร จะสั่งซื้อก๋วยเตี๋ยวจากข้างนอกก็ไม่สะดวก ท่านจึงคงอาศัยอาหารจาก “ครัวหลวง” ในวัง และสมควรพูดได้ว่า “ข้าพเจ้ารับประทานอาหาร” คือได้กินข้าวปลาอาหารที่พระมหากษัตริย์ประทานให้ (ของหลวง)
1.君主专制时期,在宫中的一些公职人员在粮食上短缺,带着便当进去也不应该,去外面买粿条也不方便,所以这些人就必须依靠宫内王室御膳房的食物,应该说 :“我吃(被赐予)食物”,也就是吃到了国王御赐的食物。

2. หลังจากที่เลิกระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พ.ศ. 2475 บรรดาข้าราชการที่ยึดอำนาจต่างอยากอวดอ้างความเป็นผู้ดีที่มีสิทธิอำนาจปกครองสามัญชนชาวไทยธรรมดาๆ จึงยึดภาษาชาววังเป็นเครื่องมือ จะเรียกกันเองต้องใช้คำว่า “คุณ” คำว่า “ตีน”, “หมา”, “หมู”, กลายเป็นคำหยาบคาย ต้องเปลี่ยนเป็น “เท้า”, “สุนัข”, “สุกร” แล้วผู้ดีเทียมเหล่านี้ “กินข้าว” ไม่เป็น หาก “รับประทานอาหาร” เยี่ยงชาววังสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์
2.在1932年结束了君主专制,获得了权力的社会上流阶级想要吹捧自己置于普通泰国民众之上的地位,就用了以前宫中的语言作为工具来吹捧,互相称呼的时候 要用“คุณ”/khun/ ‘您’, “ตีน” /tiin1/ ‘脚’, “หมา” /maa5/ ‘狗’, “หมู” /muu5/ ‘猪’这样的词都要用“เท้า” /thau4/, “สุนัข”/su2nak4/, “สุกร” /su2kɔɔn1/,这些假贵族不会用กินข้าว这样表示吃饭的词汇,而是选择了君主专制时期宫中人รับประทาน的说法。

3. ในที่สุดคำว่ารับประทานเล็ดลอดเข้ามาในภาษาผู้ดีชาวกรุงโดยทั่วไปจนลืมที่มาของคำนี้ คุณชายชาวไฮโซจึงกล่าวกับแขกผู้มีเกียรติว่า “เชิญรับประทานอาหารค่ะ” ทั้งๆ ที่อาหารนั้นออกมาจากครัวของเธอเอง (ไม่ใช่ครัวหลวง) และเธอไม่มีสิทธิ์จะ “ประทาน” อะไรแก่ใครทั้งนั้น
3.最后รับประทาน渗透到了城市中的上流阶层中,以至于他们都忘记了这个词的来源,上流贵族们会和贵客们说:“请รับประทาน(吃)饭。”尽管这些吃的是来自他们自己的厨房,而不是御膳房,他们并没有什么权力去赐予别人什么。

 

希望大家以后在讲泰语的时候也能正确使用“吃”这个词哦!

 

声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自silpa-mag,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。