每一个存在于这个世界上的生灵都有着各自不同的特点和能力。下面这则故事就告诉我们,不要因羡慕他人独有的技艺而忘记了自己的特质。对他人来说最好的东西,对我们来说或许是最坏的东西。

จักจั่นมักจะร้องเพลงที่ไพเราะกันอยู่ตลอดเวลา ลาจึงเอ่ยถามจักจั่นขึ้นมาว่า“เพื่อนเอ๋ย เจ้ากินสิ่งใดกันหรือ จึงได้มีเสียงที่ไพเราะกันขนาดนี้”
蝉唱出的歌声总是那么悦耳动听,驴(很羡慕)就问蝉说:“亲爱的朋友,你吃了什么东西,才拥有了如此美妙的歌喉呢?”

จักจั่นยิ้มเเล้วจึงตอบว่า“อ๋อ อาหารของพวกข้านั้นก็คือน้ำค้างไงล่ะ”
蝉笑着回答道:“哦,我们常常吃的食物就是露水啊。”

ลาจึงเข้าใจว่าเพราะจักจั่นกินเเต่น้ำค้างกันอย่างเดียว จึงได้มีเสียงที่ไพเราะกันเช่นนี้ ถ้าตนกินน้ำค้างบ้าง ตนก็คงจะสามารถร้องเพลงได้อย่างไพเราะอย่างเช่นจักจั่นอย่างแน่นอน
驴理解成说,因为蝉只喝露水,所以才拥有了这副夜莺般的歌喉。如果自己也喝露水,那么自己或许也能够唱出像蝉一样动听的歌曲来。

ตั้งเเต่วันนั้นเป็นต้นมาลาก็กินเเต่น้ำค้างมาตลอดทุกๆวัน ไม่แตะต้องหญ้าที่เป็นอาหาร ของตน ในไม่ช้า ลาก็ตายไปเพราะ ความหิวโหยไป
自从那天起,驴就开始每天都喝露水,而不再吃原本自己应该吃的草。不久,驴就饿死了。

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้อื่นอาจเป็นสิ่งที่เเย่ที่สุดสำหรับเรา
这个故事告诉我们:对他人来说最好的东西,对我们来说或许是最坏的东西。

本双语文章的中文翻译系沪江泰语原创内容,转载请注明出处。中文翻译仅代表译者个人观点,仅供参考。如有不妥之处,欢迎指正。