วัฒนธรรมไทย น่าภูมิใจที่สุดในโลก
泰国人最引以为豪的文化

一起来参与我们社区的话题讨论“你最喜欢泰国哪一种文化?”吧戳我参与讨论+围观别人的评论>>>
พวงมาลัย คือพวงดอกไม้ที่นำดอกไม้ ใบไม้ ต่าง ๆ เช่น กลีบดอกกุหลาบมอญ ดอกรัก ดอกผกากรอง ใบแก้ว ดอกมะลิ ดอกบานไม่รู้โรย ดอกเล็บมือนาง บานบุรี รักเร่ เฟื่องฟ้า มาร้อยเป็นพวงมาลัย โดยมักจะนำมาใช้กราบไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงนำไปไหว้ บิดามารดา ญาติผู้ใหญ่ ตามเทศกาลต่าง ๆ
1.花环:是用玫瑰花瓣、皇冠花、马樱丹花,七里香、茉莉花、千日红,使君子花、黄莺花、天竺牡丹、簕杜鹃以及树叶串成的花环,一般用于拜佛或者其它圣物,节日时也用于拜父母、长辈等。


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เคยสำรวจพฤติกรรมการซื้อพวงมาลัยของคนกรุงเทพฯ พบว่า คนกรุงเทพฯ มีค่าใช้จ่ายในการซื้อพวงมาลัย 1 ปีตกอยู่ที่ 500 ล้านบาท
泰国农业研究部曾经对曼谷市民做过一项调查,发现,曼谷市民每年用于购买花环的金额为5亿泰铢。


นอกจากพวงมาลัยสดแล้ว ยังมีพวงมาลัยดินที่ทำมาเลียนแบบมาลัยจริง แต่ทำจากดินไทย เพื่อให้เก็บรักษา และเป็นของที่ระลึก มักนำจำหน่ายต่างประเทศ
除了新鲜的花环之外,还有泥塑花环,用特有的陶土制成,利于保存,常常被当做纪念品销往国外。


ปลาตะเพียนสาน เป็นงานประดิษฐ์ที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทย เดิมมักใช้ใบลานมาทำเป็นเส้นแผ่นยาวๆบางๆมาตากแดด 2-3 นาที แล้วมาสานเป็นรูปปลาตะเพียน เนื่องจากใบลานมีโครงสร้างที่แข็งแรง แล้วลงสีให้สวยงาม สมัยก่อนคนไทยมีอาชีพทำนากันเป็นส่วนใหญ่ ในคูคลองก็จะมีปลาตะเพียนเป็นจำนวนมาก ปลาตะเพียนสานจึงเป็นสัญญลักษณ์แห่ง ความอุดม สมบูรณ์ เนื่องจากช่วงที่ ปลาโตเต็มที่นั้น เป็นช่วงเดียวกับ ช่วงเวลาที่ ข้าวตกรวง นอกจากนี้ผู้ใหญ่มักจะแขวน ปลาตะเพียนสาน ไว้เหนือเปลเด็ก เพื่อเป็นการอวยพร ให้เด็กสุขภาพแข็งแรงอีกด้วย ปลาตะเพียนสาน มี 2 ชนิด คือ ชนิดลวดลายและตกแต่งสวยงาม ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 และอีกชนิดหนึ่งเป็นเพียงสีใบลานตามธรรมชาติ
2.鲤鱼织:是展现泰国人民智慧的手工艺品。以前是用棕葵叶织成长长、薄薄的一片,在太阳下晾晒2-3分钟,然后织成鲤鱼,这是因为棕葵叶韧性好、上色美观。以前,大多数泰国人以务农为生,池塘里都是鲤鱼,所以鲤鱼寓意富饶与富足。鲤鱼充分发育时正式稻子成熟之季。此外,长辈常常在婴儿摇篮上挂着鲤鱼织,意在祝福孩子健健康康。鲤鱼织有两种,一种是五世王时期出现的彩色条纹鲤鱼,另一种是自然的棕葵叶颜色。


ตัวเลขไทย เป็นอักษรตัวเลขที่ใช้แสดงจำนวนนับในภาษาไทย ประดิษฐ์ขึ้นโดยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช โดยดัดแปลงมาจากตัวอักษรขอม เป็นหนึ่งในไม่กี่ภาษาที่ใช้ระบบจำนวนนับเป็นเลขฐานสิบ และมีการเปลี่ยนแปลงสัณฐาน จากอดีตสู่ปัจจุบันน้อยมาก
3.泰语数字:是泰语中计数的字母,出自兰甘亨大帝之手,是高棉文的变形体,是为数不多的十进制语言中的一种,自古至今,变化不大。


การไหว้ เป็นมารยาทไทยที่เป็นวัฒนธรรมการทักทาย เวลาพบปะกันหรือลาจากกัน "การไหว้" เป็นการแสดงถึงความมีสัมมาคารวะ และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน นอกเหนือจากการกล่าวคำว่า "สวัสดี" แล้วยังแสดงออกถึงความหมาย "การขอบคุณ" และ "การขอโทษ" การไหว้เป็นการแสดงมิตรภาพ มิตรไมตรี ที่เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม โดยยกมือสองข้างประณม นิ้วชิดกัน ปลายนิ้วจรดกัน ไม่แยกปลายนิ้วออกจากกัน ยกมือขึ้นในระดับต่างๆ ตามฐานะของบุคคล เเละเมื่อมีผู้ทำความเคารพด้วยการไหว้ ต้องรับไหว้ทุกครั้ง การรับไหว้ใช้ประณมมือแค่อก แล้วยกขึ้นเล็กน้อย ก้มศีรษะ
4.合十礼:是泰国见面打招呼和告别的方式,体现出人与人之间的互相尊重,除了有“你好”之意外,还有“谢谢”“对不起”等意味,体现了人与人之间的友好,是优良的文化传统。行合十礼时,两手举起,手指紧扣,指尖相抵,依据个人身份来决定举的高度。当有人对我们行合十礼时,我们要回礼,把手举到胸前,稍微举起,低头。

สวัสดี ผู้ที่ริเริ่มใช้คำว่า "สวัสดี" คือ พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) โดยพิจารณามาจากศัพท์ "โสตถิ" ในภาษาบาลี หรือ "สวัสติ" ในภาษาสันสกฤต โดยได้เริ่มใช้เป็นครั้งแรก ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะที่พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) เป็นอาจารย์อยู่ที่นั่น หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2486 จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นเห็นชอบให้ใช้คำว่า "สวัสดี" เป็นคำทักทายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม เป็นต้นมา
泰语的“你好”:首次使用“สวัสดี”这个词的人是泰国作家和泰语专家พระยาอุปกิตศิลปสาร。"สวัสดี"来自巴利文的"โสตถิ"和梵文的"สวัสติ"。พระยาอุปกิตศิลปสาร第一次使用这个词是还在朱拉隆功大学文学院当老师的时候。1943年1月22日,时任泰国总理的銮披汶•颂堪元帅批准"สวัสดี"为官方问候语。


คำว่าสวัสดีนั้นจะทำหน้าที่ทั้งการทักทาย และอวยพรไปในคราวเดียวกัน และเมื่อเรากล่าวคำว่าสวัสดี คนไทยเรายังยกมือขึ้นประนมไหว้ตรงอก มือทั้งสองจะประสานกันเป็นรูปดอกบัวตูม เหมือนสัญลักษณ์ที่สื่อความหมายถึงสิ่งสูงค่าที่เป็นมงคล เพราะชาวไทยใช้ดอกบัวในการสักการะผู้ใหญ่ บูชาพระพุทธ พระฑรรม พระสงฆ์ ส่วนการวางมือไว้ตรงระดับหัวใจนั้น เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกให้เห็นว่า การทักทายนั้นมาจากใจของผู้ไหว้
"สวัสดี"既是问候语也包含祝福。说这个词的时候,双手合十成含苞的莲花状,寓意尊重和吉祥,因为泰国人用莲花来跪拜长辈、佛像、僧侣等,把手举到胸前,意指发自内心的打招呼。


ดังนั้น เมื่อกล่าวคำว่าสวัสดีพร้อมกับการยกมือขึ้นประนม จึงแฝงให้เห็นถึงความมีจิตใจที่งดงามของคนไทย ที่หวังให้ผู้อื่นพบเจอแต่ในสิ่งที่ดี ซึ่งการกระทำที่งดงามของคนไทยที่หวังให้ผู้อื่นพบเจอแต่ในสิ่งที่ดี ซึ่งการกระทำที่งดงามดังกล่าวนี้ ถือเป็นมงคลต่อทั้งตัวผู้พูดและผู้ฟัง
所以,说"สวัสดี"并行合十礼体现了泰国人民的善良,希望他人好运。这种美好愿望对说话者和听者都是一种美好的寄意。

ดวงพิชัยสงครามสําหรับบูชา ในสมัยโบราณผู้ที่เป็นเจ้าของจะมีเพียงพระมหากษัตริย์เท่านั้น เป็นเรื่องต้องห้ามสําหรับบุคคลโดยทั่วไป จนกระทั่งเมื่อข้าศึกยกทัพมารุกราน ด้วยกําลังพลที่น้อยกว่า ประกอบกับปัญหาด้านเสบียง ซึ่งยากยิ่งแก่การทําศึกให้มีชัย จึงได้มีการจัดทําดวงชะตาสําหรับบูชาให้แก่แม่ทัพนายกอง จากนั้นเมื่อมีชัยในการทําศึกสงคราม จึงเรียกดวงชะตานี้ว่า ดวงพิชัยสงคราม ซึ่งก็หมายถึงดวงชนะสงครามนั่นเอง และหลังจากนั้นการทําดวงพิชัยสงครามก็เริ่มแพร่หลายสูประชาชนทั่วไป เพราะมีความเชื่อว่า การทําดวงพิชัยสงครามไว้บูชา เปรียบเสมือนมีวัตถุมงคลที่มีความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งไม่เพียงแต่จะประสบผลในทางชนะสงคราม ชนะอริราชศัตรูหมู่มารเท่านั้น แต่ยังถือเป็น รั้วคุ้มเคราะห์ เกราะกันภัย แคล้วคลาดปัดเป่าจากสิ่งเลวร้ายเสริมสรรพศิริมงคล ช่วคนที่ดวงร้ายให้บรรเทาเบาบางลงกลับกลายไปในทางที่ดี และเสริมให้ดียิ่งๆขึ้นไป สําหรับผู้ที่ดวงดีอยู่แล้ว
5.胜利符:古时候,国王是国家的最高统治者,一般人不能拥有。直到后来,敌军举兵侵犯,寡不敌众,再加上粮草供应不足,这样下去难以获胜,所以才为将军做了命运符并供奉起来,打了胜仗之后,就将其成为“胜利符”意为“凯旋”。此后,胜利符开始流行,进入寻常百姓家,因为人们相信,供奉胜利符,就好比拥有强大而神圣的信念,不仅能打胜仗,赶走敌人,还是命运的守护神,辟邪消灾,驱祸避害,使不幸的人能时来运转,使幸运的人越来越走运。

สุริยยาตร เป็นดาราศาสตร์แผนไทยแต่ครั้งอดีตตั้งแต่สุโขทัยลงมาโดยมีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดีย สยามประเทศได้มีตำราดาราศาสตร์ที่สืบตกทอดใช้ทำปฏิทินดวงดาว (Ephemeris) หรือปฏิทินโหรรายปี ผูกดวง (ดาว) และเป็นหลักในการเทียบทำปฏิทินจันทรคติไทย มาแต่อดีต ตำรานี้ที่ตกทอดมาเป็นเพียงแต่สูตร บวก ลบ คูณ หารเท่านั้น ไม่มีเหตุผลประกอบถึงกลไกในการคำนวณ ทำให้ตำรานี้ หยุดการพัฒนาไปหลายทศวรรษ ผู้ที่ศึกษาตำรานี้จะเรียนรู้แต่วิธีคำนวณไปตามกฏเกณฑ์ที่วางไว้เท่านั้นจนปี พ.ศ. 2545 อาจารย์ไพศาล เตชจารุวงศ์ เป็นผู้ถอดรหัสสุริยยาตรได้ทั้งหมด ทำให้ทราบทั้งกลไก เหตุผลและ ทำให้พบตารางไซน์และโคไซน์ที่ปรากฏในตำรานี้ด้วย สุริยยาตรเป็นหลักฐานหนึ่งที่ชี้ชัดว่า ไทยเราได้รับศาสตร์แห่งตรีโกณมิติ มาเป็นเวลากว่า 700 ปีขึ้นไป
6.星历表:源于印度,流传自素可泰王朝。暹罗自古就有占星书籍,并演变成星历表或称占星图,是泰历的编制依据。这个流传下来的星历表只有公式和加减乘除的计算方法,没有关于计算原理的详细记载,使得它在多个世纪里停滞不前,这张星历表的研究人员只能根据公式计算,直到2002年ไพศาล เตชจารุวงศ์才破解它,并得出了计算原理,而且还发现了正弦表和余弦表,สุริยยาตร指出,泰国关于三角数学的研究已有700多年的历史。

ละคร หมายถึงการแสดงรำที่เป็นเรื่องเป็นราว ดำเนินเรื่องไปโดยลำดับ มีตัวเอกของเรื่อง ฝ่ายชายเรียกว่าตัวพระ เพราะสมัยโบราณแสดงแต่เรื่องจักรๆวงศ์ๆ เป็นเรื่องของกษัตริย์ มีชื่อว่าพระต่างๆ เช่น พระอนิรุทธิ์ พระไชยเชษฐ์ พระอภัยมณี ฝ่ายหญิงเรียกว่า ตัวนาง เพราะในเรื่องที่แสดงมักชื่อว่านางต่างๆ เช่น นางสีดา นางบุษบา นางทิพย์เกสร ยังไม่มีการแบ่งเป็นนางสาวและนางที่มีสามีแล้ว และตัวประกอบอื่นๆแล้วแต่ในเรื่องจะมีละครมีหลายแบบ แต่ละแบบมีการแสดงและความมุ่งหมายแตกต่างกัน เช่น ละครโนรา ละครนอก ละครใน ละครพันทาง และละครดึกดำบรรพ์
7.戏剧:即有情节、有过程的表演,男主角叫做ตัวพระ,因为以前所表演的都是王族的故事,主角的名字里都有พระ一词,比如พระอนิรุทธิ์ พระไชยเชษฐ์ พระอภัยมณี,女主角叫做ตัวนาง,因为女主角的名字往往有นาง这个词,比如นางสีดา นางบุษบา นางทิพย์เกสร,那时候还没有未婚和已婚之分,其它角色根据戏剧种类而定,每个种类的戏剧有不同的表演目的,有nola剧。外剧、内剧、混合类戏剧和远古时代戏剧等

นักแสดงโนรา ในสมัยรัชกาลที่ 6
六世王时期的戏剧演员

มโนราห์ เรียกสั้นๆ ว่า โนรา เป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านของภาคใต้ โดยเฉพาะมีท่ารำที่อ่อนช้อย สวยงาม บทร้องเป็นกลอนสด ผู้ขับร้องต้องใช้ปฏิภาณไหวพริบ สรรหาคำให้สัมผัสกันได้อย่างฉับไว มีความหมายทั้งบทร้อง ท่ารำและเครื่องแต่งกายเครื่องดนตรี
manola简称Nola,是南部地方性戏剧,动作柔美,唱词即兴发挥,演唱者要随机应变,反应要敏捷,唱词、动作乃至乐器和装扮都要合情合景。


โขน เป็นศิลปะการแสดงอย่างหนึ่งของไทย มีประวัติที่เก่าแก่ยาวนานมาก เชื่อว่ามีความเก่าแก่อย่างน้อยย้อนไปถึงสมัยอยุธยา เป็นการแสดงที่อาศัยท่าเต้นเป็นการแสดงออกทางอารมณ์เป็นสำคัญ ตัวละครมีทั้งแบบสวมมงกุฎบนศีรษะ และสวมหน้ากาก โดยการแสดงเป็นเรื่องราว มีทั้งบทเจรจา และบทร้อง สำหรับเนื้อเรื่องที่นำมาแสดงโขนนั้นปัจจุบันนิยมเล่นแต่เรื่องรามเกียรติ์เท่านั้น
Kon剧在泰国具有很长的历史,至少要追溯到大城王朝时期,主要依靠动作表现情感,人物头戴王冠,脸戴面具,有故事情节,既有谈判又有唱词,现如今,kon剧主要有《拉玛坚史诗》。


一起来参与我们社区的话题讨论“你最喜欢泰国哪一种文化?”吧戳我参与讨论+围观别人的评论>>>

本双语文章的中文翻译系沪江泰语原创内容,转载请注明出处。中文翻译仅代表译者个人观点,仅供参考。如有不妥之处,欢迎指正。

了解更多泰国文化:
泰国每天都有不同的代表色,你知道吗?

拉玛一世至拉玛九世之间的泰服演变

泰国节日之波伊善隆节