愚人节过了,宋干节还会远吗?看着天天被撕掉的日历,老铁们是不是又在扎心该去哪里玩呢?也许你打算去清迈泼水、去甲米看海,或是随意找个地方感受一下泰国人民对宋干节的热情~可是!!老铁们有没有想过泼水之余还能干点什么呢?毕竟难得有时间出来放松一下,总不能一直沉浸在泼水当中无法自拔~那样可是有点伤身的哟~也许你需要找一个清静的地方,好好感受一下人生,哈哈哈哈哈~泰国东北部的“吴哥窟”——披迈石宫,或许就是个不错的选择~~

อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ตั้งอยู่ที่ตำบลในเมืองอำเภอพิมายจังหวัดนครราชสีมาห่างจากตัวจังหวัดนครราชสีมาไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือระยะทางประมาณ ๖๐ กิโลเมตรเป็นสถานที่ตั้งของปราสาทหินพิมาย ซึ่งเป็นศาสนาถานในพุทธศาสนานิกายมหายานที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยมีอายุยาว ๑๐๐๐ ปีมาแล้ว
披迈历史公园,位于呵叻府东北地区的披迈县,距呵叻市区约60公里,为披迈石宫所在地,也是全泰国最重要的大乘佛教界石宫之一,已有上千年的历史。

ประสาทหินพิมายสร้างขึ้นเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - ๑๗ และมีการก่อสร้างเพิ่มเติมในพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ซึ่งเป็นศาสนสถานที่ขนาดใหญ่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งที่พบในประเทศไทย กรมศิลปากรได้ดำเนินการอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมแห่งนี้โดยดำเนินการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานปราสาทหินพิมายในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ ๕๓ ตอนที่ ๓๔ ลงวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๙ และได้ดำเนินการบูรณะครั้งใหญ่ระหว่าง พ.ศ.๒๕๐๗-๒๕๑๒ โดยกรมศิลปากรร่วมกับรัฐบาลฝรั่งเศส ทำการบูรณะปราสาทประธานด้วยเทคนิคอนัสติโลซีส (ANASTYLOSIS)คือ การนำชิ้นส่วนต่างๆของตัวปราสาทประกอบเข้าด้วยกันตามหลักวิชาการและนำกลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิม รวมทั้งได้บูรณะโบราณสถานในเมืองพิมายอย่างต่อเนื่อง กรมศิลปากรจึงได้จัดตั้งอุทยานประวัติศาสตร์พิมายขึ้น ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๒
披迈石宫,始建于佛历16-17世纪(公元11世纪左右),佛历18世纪起陆续扩建起来,是泰国境内规模最大也是最重要的宗教石宫之一。艺术厅为保护此文化遗产,1936年9月27日,在政府公报第34篇第53册上宣布注册“披迈石宫古迹地”,并于1964-1969年间联合法国政府修复石宫主塔,使用“ANASTYLOSIS”技术,取出残件修复后还原,直至将整个披迈县内的古迹陆续修复完成后成立后,艺术厅宣布成立披迈历史公园,于1989年4月12日正式开放,并由帕贴公主主持开幕典礼。

โบราณสถานในประสาทหินพิมาย披迈石宫里的12处古迹遗址 

1.พลับพลาเปลื้องเครื่อง 彩棚 

ตั้งอยู่บริเวณด้านซ้ายมือของทางเดินเข้าสู่ตัวปราสาท เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด กว้าง ๒๖.๐๐ เมตร ยาว ๓๕.๑๐ เมตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก จากการขุดแต่งบริเวณนี้เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๑ พบกระเบื้องมุงหลังคาจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเคยพบรูปเคารพ เครื่องประดับ และเหรียญสำริดจำนวนหนึ่งภายในอาคาร จึงเป็นเหตุให้เรียกกันว่า คลังเงินอยู่ระยะหนึ่ง จากตำแหน่งที่ตั้งสันนิษฐานว่าอาคารหลังนี้ คงใช้เป็นสถานที่พักเตรียมพระองค์สำหรับกษัตริย์หรือเจ้านายชั้นสูงที่เสด็จมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา รวมทั้งเป็นสถานที่พักจัดขบวนสิ่งของถวายต่างๆ
位于石宫入口左前方,为长方形建筑物,宽26米,长35.1米,面朝东方。1968年在此进行修复工作时,挖出许多瓦片,除此之外还有祭尊像、各种装饰配件和合金铜币等文物,因而得名为“银库”。根据其建造位置而推测,该建筑物可能是为国王或宫廷内的官爵参加宗教祭奠典礼的休息处,还可能是各种祭奠典礼供品摆放处。

2.สะพานนาคราช 蛇王桥

บริเวณด้านหน้าทางเข้าโคปุระด้านทิศใต้ สร้างด้วยหินทราย มีผังเป็นรูปกากบาท กว้าง ๔ เมตร ยาว ๓๑.๗๐ เมตร ยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ ๒.๕๐ เมตร ราวสะพานทำเป็นลำตัวนาคที่ปลายราวสะพานทำเป็นรูปนาคราชชูคอแผ่พังพาน เป็นรูปนาค ๗ เศียร อันเป็นลักษณะที่นิยมในศิลปะเขมรแบบนครวัด ราวกลาง

พุทธศตวรรษที่๑๗ สะพานนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางเข้าสู่ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ตามคติความเชื่อเรื่องจักรวาลเชื่อว่าเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโลกมนุษย์กับสวรรค์ คตินี้ถือสืบกันต่อมาในศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ

位于石宫南面入口大道,用砂石建造,呈十字形,宽4米,长31.7米,走道高于地平面约2.5米,桥身以蟒蛇为形雕刻而成,桥头为张牙舞爪的七头蛇形,与柬埔寨的吴哥窟有异曲同工之处。公元12世纪人们将此桥视为进入宗教圣地的起点,根据宇宙论的信条,人们相信此桥是人间通往天堂的彩道,而该信条也一直在印度教与佛教中流传。

3.ซุ้มประตูและกำแพงแก้ว 拱门和城墙

ซุ้มประตูหรือโคปุระ ตั้งอยู่กึ่งกลางของแนวกำแพงแก้ว อยู่ในแนวตรงกันทั้งหมด ๔ ด้าน คือ ทิศเหนือและทิศใต้อยู่ตรงกึ่งกลางของกำแพง ทิศตะวันออกและทิศตะวันตกค่อนไปทางทิศเหนือเล็กน้อย ผังโดยรอบของซุ้มประตูมีลักษณะเป็นรูปกากบาท จากกำแพงแก้วเข้ามาด้านในเชื่อกันว่าเป็นดินแดนเข้าสู่โลกสวรรค์อันเป็นที่อยู่ของเทพเจ้า
拱门建于城墙的正中央,石宫内四个方向都有拱门,北边和南边的拱门位于城墙正中央,东边和西边的拱门则偏北一点,但也都排在一条直线上。所有拱门呈十字形排列,人们认为城墙之内已属于天堂,是神仙居住的地方。

4.ชาลาทางเดิน露台走廊 

เมื่อผ่านซุ้มประตูด้านทิศใต้เข้ามาจะเป็นลานชั้นนอกของปราสาทจะปรากฏแนวทางเดินนี้ก่อด้วยหินทรายยกพื้นสูงประมาณ ๑ เมตร แบ่งเป็น ๓ ช่องทางเดินจากการบูรณะพบเศษกระเบื้องมุงหลังคาและบราลีดินเผาจำนวนมาก เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าทางเดินมีลักษณะเป็นระเบียงโปร่งหลังคามุงกระเบื้อง รองรับด้วยเสาไม้ซึ่งผุพังไปหมดแล้ว
从南边的拱门进入接连接石宫外的空地后,就会看到围绕着石宫主塔的露台走廊,露台走廊用砂石岩建成,比地面高约1米,分为3条走道。在修复过程中也发现了大量破碎的瓦片和陶土片,所以推测露台走廊原貌为木柱结构并设有屋顶的无壁走廊。

5.บรรณาลัย 藏经阁

ตั้งอยู่บริเวณชั้นนอกระหว่างซุ้มประตูกำแพงแก้วและซุ้มประตูระเบียงคดด้านทิศตะวันตก มีลักษณะเป็นอาคารขนาดเดียวกัน ๒ หลัง สร้างเรียงต่อกันในแนวเหนือ-ใต้ ผังอาคารเป็นผืนผ้ายกพื้นสูงผก่อด้วยหินทราย  กั้นเป็นห้องยาวตลอดแนว พบร่องรอยหลุมเสารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสระหว่างการขุดแต่งพบกระเบื้องมุงหลังคาดินเผาเป็นจำนวนมาก เดิมคงเป็นหลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้อง อาคารทั้งสองหลังนี้จัดเป็นอาคารขนาดใหญ่ เชื่อกันว่าเป็นบรรณาลัยซึ่งหมายถึงสถานที่เก็บรักษาคัมภีร์ต่างๆทางศาสนา
位于西边外围墙与内围墙之间的平地上,由南北两座相同的长方形楼塔组成,楼塔由砂石筑成,比地面高约一米,围栏一通到底。地面上有正四边形柱坑痕迹,做修复工作时还挖掘到了大量瓦片,推测可能是木制结构,瓦片屋顶,这两座楼塔面积比较大,人们 认为这应该是收藏宗教圣经的场所。

6.สระน้ำ 池塘

ตั้งอยู่ที่มุมทั้ง ๔ ทิศ ของลานกำแพงปราสาทชั้นนอก ภายในสระได้พบว่ามีการนำวัสดุจากชิ้นส่วนสถาปัตยกรรม เช่น เสากำแพงกรอบประตูนำมาวางเรียงกันอย่างไม่เป็นระเบียบ เดิมบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของวัดต่างๆซึ่งได้ย้ายไปตั้งใหม่นอกปราสาทแล้ว เช่น วัดสระเพลง วัดพระปรางค์ใหญ่ วัดโบสถ์ และวัดพระปรางค์น้อย สระเหล่านี้คงขุดขึ้นเพื่อประโยชน์ของวัดในการใช้อุปโภคบริโภค การสร้างวัดและขุดสระทั้ง ๔ นี้คงสร้างขึ้นในราวสมัยอยุธยาตอนปลาย
石宫外墙周围四边的空地上都有挖有一个池塘,池内发现了不规则排列的门柱等部分建筑材料,这片区域原先是各种寺庙的所在地,比如,萨棱寺、大帕邦寺、波洒寺、和小帕邦寺等,但是后来移到了石宫外重建。挖凿这些池塘是为了给寺庙提供日常用水,寺庙和四个池塘大约建于阿瑜陀耶末期。

7.ซุ้มประตูและระเบียงคด 拱门和绕廊

เป็นอาคารก่อด้วยหินทรายยกพื้นสูง อยู่ล้อมรอบปราสาทประธานระเบียงคดมีลักษณะคล้ายกำแพงแก้ว คือ มีซุ้มประตูอยู่กึ่งกลางของกำแพงทั้ง๔ด้าน โดยมีตำแหน่งที่ตั้งตรงกับแนวของประตูเมือง และประตูทางเข้าปราสาทประธาน ปรากฏหลักฐานสำคัญที่ซุ้มประตูระเบียงคดด้านทิศใต้ คือ จารึกบริเวณกรอบประตูห้องกลางด้านทิศตะวันออก จารึกด้วยอักษรขอมโบราณภาษาเขมร ระบุชื่อ"กมรเตงชคตวิมาย" และกล่าวถึงการสร้างรูปเคารพสำคัญชื่อ"กมรเตงชคตเสนาบดีไตรโลกยวิชัย"ตรงกับ พ.ศ.๑๖๕๑ ตลอดจนปรากฏพระนามของขุนนางชั้นสูงและพระนามพระมหากษัตริย์ คือ พระเจ้าธรณีนทรวรมันที่๑
以砂石建造,高于地面的内墙设有走廊围绕着石宫主塔,与城墙构造类似,四边的城墙中央均设有拱门,而所有拱门和披迈县城门全都排列在同一直线上,在南边拱门的门框边上,用柬埔寨文字镌刻着石宫建造和尊像雕刻过程,以及国王和大臣的名字,国王叫做“塔拉宁踏腊瓦拉满一世王”,所有内容都刻于公元1108年。

8.ปราสาทประธาน 石宫主塔

ภายในลานชั้นในซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารศาสนสถานหลายองค์ด้วยกันที่ตั้งอยู่ตรงกลางลานคือปราสาทประธาน เป็นศูนย์กลางและสำคัญที่สุดปราสาทประธานสร้างด้วยศิลาทรายสีขาวหันหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งแตกต่างจากศาสนสถานแบบขอมในที่อื่นๆ ซึ่งมักจะหันหน้าไปทางทิศตะวตนออก สูง๒๘เมตรสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ ปราสาทประธานประกอบด้วยส่วนสำคัญ ๒ ส่วนคือ มณฑปและเรือนธาตุ มีการจำหลักลวดลายประดับตามส่วนต่างๆ เช่น หน้าบาน ทับหลัง มักจำหลักเป็นภาพเล่าเรื่องรามเกียรติ์และเรื่องราวทางพุทธศาสนา ยกเว้นด้านทิศใต้ จำหลักเป็นภาพศิวนาฏราช ภายในเรือนธาตุเป็นส่วนสำคัญที่สุดเรียกว่า ห้องครรภคฤหะ เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพสำคัญพื้นห้องตรงมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีร่องน้ำมนต์ต่อลอดผ่านพื้นห้องออกไปทางด้านนอก เรียกว่า ท่อโสมสูตร
石宫内的空地上坐落着多座宗教建筑,但位于中间的主塔是披迈石宫最大也是最重要的建筑物,其用白砂石建造,面朝南方,这有别于古柬埔寨王国宗教建筑物大多面朝东方的特点,高28米,建于 公元11世纪左右。石宫主塔由两个重要的部分构成,一为“门朵”(带尖顶的四方形屋顶),二为“勒安踏德”。主塔墙面和拱门上方均刻有印度史诗《拉玛坚》和佛教相关事迹及图案。但只有南边的拱门上方雕刻着蛇王图案。勒安踏德最重要的部分是“堪帕卡乐哈室”,为专门放置重要尊像的房间,室内东北方向的墙角上有一根直通室外的水管通道,叫作“宋素管”。

9.พลับพลา 平台

ภายในลานชั้นในด้านทิศตะวันออกของปราสาทประธานมีฐานอาคารก่อด้วยหินทราย รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุม ขนาด ๘.๑๔ เมตร ยกพื้นสูง ๐.๗๐ เมตรเว้นช่องว่างตรงกลางเป็นช่องสี่เหลี่ยม มีหลุมขนาดใหญ่อยู่ที่ขอบฐานด้่านทิศเหนือและทิศใต้ ด้านที่หันเข้าสู่ปราสาทประธานทำเป็นมุขยื่นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสันนิฐานว่าฐานอาคารหลังนี้คงใช้ประโยชน์ในพิธีกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง
位于石宫东边的平地上,由砂石建造呈切角正方形,边长8.14米,比地面高约0.7米,中间有一个四边形坑,北边和南边也有大型的坑洞。石宫入口处有一个四边形平台,推测此平台可能是用于举行某种仪式。

10.หอพราหมณ์ 婆罗门塔楼

เป็นอาคารก่อด้วยหินทราย และศิลาแลง ตั้งอยู่บนฐานเดียวกันกับปรางค์หินแดง มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ในปี พ.ศ.๒๔๙๗ ได้ค้นพบศิวลึงค์ขนาดย่อมทำด้วยหินทราย เชื่อกันว่าอาคารหลังนี้คงเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาพราหมณ์ จึงเรียกกันต่อมาว่า หอพราหมณ์ แต่จากรูปแบบและตำแหน่งที่ตั้งเดิมคงเป็นที่ตั้งของบรรณาลัยของปราสาทมากกว่า
由砂岩和红砖筑成,与红砖塔建在同一地基上,还有四边形样式的图案。1954年发现七件用砂石雕刻而成的“湿婆凌迦”(象征湿婆的男性生殖器石像,有成功、幸福、繁荣昌盛、自由和解脱等寓意),相信该楼是用来举行婆罗门教的各种仪式,所以其被称作“婆罗门塔楼”,但根据其设计形状,是石宫藏经阁的可能性更大一点。

11.ปราค์หินแดง 红砖塔

สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ ตั้งอยู่ทางด้านขวาของปรางค์ประธานมีมุขยื่นออกไปทั้ง ๔ ทิศ เหนือกรอบประตูทางเข้า ด้านทิศเหนือมีทับหลังหินทรายจำหลักภาพเล่าเรื่องมหาภารตะ ตอนกรรณะล่าหมูป่า ส่วนกรอบประตูด้านอื่คงเหนือร่องรอย เฉพาะเสาประดับกรอบประตูศิลปะแบบเขมรประดับอยู่
建于大约公元11世纪,位于石宫主塔的右侧,四周设有门廊,北边的门框上方雕刻着印度史诗中狩猎野猪的章节,而其余门框上都有些许艺术痕迹,而门框柱特别使用了柬埔寨艺术装饰手法。

12.ปรางค์พรหมทัต 婆罗门踏佛塔 

ลักษณะของปรางค์องค์นี้ สร้างด้วยศิลาแลงตั้งอยู่ด้านหน้าของปราสาทประธานทางทิศตะวันออกเฉีสยมพร ฐานเป็นรูปสี่เหลียมจัตุรัส ประตูทำเป็นมุขยื่นออกไปทั้ง ๔ ทิศ ภายในองค์ปรางค์ พบประติมากรรมสำคัญ ๒ ชิ้น คือ ประติมากรรมรูปบุคคลขนาดใหญ่นั่งขัดสมาธิสลักด้วยหินทราย สันนิฐานว่าเป็นรูปของพระเจ้าชัยวรมันที่๗ ชาวบ้าน เรียกว่า ท้าวพรหมทัต ส่วนอีกรูปหนึ่งเป็นรูปสตรีนั่งคุกเข่าสลักด้วยหินทราย ส่วนศีรษะและแขนหักหายไป เชื่อกันว่าเป็นรูปของพระนางชัยราชเทวี ชาวบ้านเรียกตามนิยายพื้นบ้านว่า นางอรพิมปัจจุบันประติมากรรมทั้ง ๒ นี้ จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย
该佛塔由红砖建成,位于石宫主塔前东南方向,呈正四边形,四周有门廊伸出。佛塔内发现了两件重要的艺术制品。一件是用砂石雕刻成的盘腿而坐的大型人物像,推测可能是“猜瓦拉满七世王”,民间称之为“婆罗门踏王”。另一件是呈跪姿的女子石雕像,既没有头也没有手臂,据说是“婆罗门踏王后”,民间也叫“恩拉萍”,现在这两件艺术品都放置在披迈博物馆里展览。

注意事项:

1. 开放时间:07:00-18:00
2. 参观收费标准: 泰国人20泰铢 外国人100泰铢
3. 免费参观者:各宗教出家人士、牧师、僧侣以及身穿校服的学生

当时小编可是我们这一群人当中第一批去参观披迈石宫的人,竟有种开辟了新景点的感觉,还得意了好一阵子~可是小编就是因为不知道第三点还白白多花了100泰铢呢,因为小编也有泰式校服喔,如果知道这一条信息,那省下来的钱都够小编多吃3碗河粉了。唉~说多了都是泪啊~所以各位老铁们,有了这些信息,趁着阳光正好,微风不噪,赶紧带上你的钱包来感受一下这座千年石宫的魅力吧~~~

本双语文章中的中文翻译系沪江泰语原创内容,转载请注明出处。中文翻译仅代表个人观点,仅供参考。如有不妥之处,欢迎指正。