油价飙升,导致一些航空公司也准备上调价格,曼谷方面表示可以上调但要控制上调限度,这是怎么回事?让我们去一探究竟

วันนี้(23 พ.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้นขณะนี้ ต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบทำให้ต้นทุนของธุรกิจสายการบินสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ราคาบัตรโดยสาร รวมถึงการทำโปรโมชั่นแข่งขันราคาต่ำ อาจต้องปรับราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ตามการปรับเพิ่มของราคาบัตรโดยสาร จะยังคงดำเนินอยู่ในกรอบเพดานราคาที่ กพท.กำหนด อีกทั้งจะไม่ทำให้ผู้โดยสารได้รับผลกระทบหนัก
5月23日,鸟航首席执行官表示,世界油价的上涨已经对航空业产生了影响,这将导致航空的成本变高,航空公司可能会需要上调机票价格,包括一些打折的低价机票也或将调整,但是机票的上涨会在可控的范围内,并不会对乘客产生十分严重的影响。

ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. กล่าวว่า ตามปกติหากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ทางสายการบินสามารถปรับเพิ่มต้นทุนในส่วนของค่าธรรมเนียมน้ำมัน ซึ่งจะรวมอยู่ในราคาบัตรโดยสาร โดยไม่ต้องขออนุญาตมาที่ กพท. เนื่องจาก กพท. ได้ให้หลักการไว้ว่าหากน้ำมันขึ้นก็สามารถปรับขึ้นได้ แต่โดยรวมราคาบัตรโดยสารต้องไม่เกินกรอบเพดานกำหนด คือ 13 บาท ต่อกิโลเมตร ทั้งนี้เมื่อน้ำมันปรับลดก็ต้องลดราคาลง
泰国民航局局长表示,油价的上涨会导致航空公司增加燃油费,这些都会包含在票价里,机票价格可以上调但不允许超过每公里13泰铢,如果将来油价降低,机票价格也要降低。

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เชื่อว่าแต่ละสายการบินคงอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางในการปรับตัวรับมือต้นทุนที่เพิ่มสูง หากรับมือไม่ไหวก็คงต้องปรับราคาบัตรโดยสารขยับขึ้นบ้าง แต่มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อผู้โดยสารมาก เพราะอุตสาหกรรมการบินในปัจจุบันแข่งขันรุนแรง ผู้ประกอบการจึงต้องทำราคาแข่งขันเพื่อแย่งชิงตลาด
无论如何,现在的油价已经开始上涨趋势,相信每家航空公司都会考虑调高价格,但应该不会对乘客产生太大的影响,因为目前泰国航空业竞争激烈,各航空公司需要用价格来吸引顾客。

声明:本文由沪江泰语编译整理,转载请注明出处。如有不妥,敬请指正。