不得不说2018年的泰国旅游业是坎坷的,在今年年初其发展势头还是不错的,但一件件负面新闻的曝出,现在的泰国旅游业竟让人有点不忍直视,连国庆黄金周都没有迎来往年的泰国旅游热潮。真的要凉凉?

ท่องเที่ยวไทยที่ต้นปีทำท่าจะไปได้ดี แต่ๆๆๆ ต้องสะดุดขาตัวเองล้มคว่ำอย่างไม่เป็นท่า งานนี้ไม่มีใครทำเราทำตัวเราเองจะเรียกว่า “พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก” ก็คงไม่ผิดไปจากความเป็นจริงเท่าไหร่นัก

泰国旅游业在今年年初的时候势头还是不错的,但到现在却让人不忍直视。造成这一切的原因归根结底还在于我们自己。从事实的角度出发,说成是咎由自取也不为过。

 

เหนือสิ่งใดเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นบังเอิญมาเกิดกับ “นักท่องเที่ยวจีน” ที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวไทยเป็นอันดับหนึ่งเสียด้วย หลังจากกรณีเรือล่มที่ภูเก็ตเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตไป 47 คน เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างมาก

而造成现状的一些主要事件都与“中国游客”有关。目前中国游客是来泰国旅游的主要群体,而7月发生的“普吉沉船”事件中有47名中国游客在事故中丧生,这对泰国旅游业造成了很大的不良影响。

 

ยิ่งเหตุการณ์เกิดพร้อมๆ กับทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง ทำให้ถูกมองว่ารัฐบาลทุ่มสรรพกำลังไปทางนั้นมากกว่า

在“沉船事件”发生的同时,野猪足球队的孩子们被困岩洞,政府以及大多数民众都把注意力放在了孩子身上,对中国游客的事件关注度不高。

เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ทางการจีนร้อนใจมาก ในคราวที่มีการประชุมแก้ปัญหาร่วมกันระหว่างฝ่ายไทยกับฝ่ายจีน ซึ่งผู้แทนจีนได้เปิดเผยสถิติหลังเหตุการณ์เรือล่มว่า ในปี 60 เป็นปีที่นักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุมากถึง 98 คน มาจากจมน้ำตายถึง 65 คน เทียบกับทั่วโลกที่นักท่องเที่ยวจีนจมน้ำตายปีที่แล้ว 165 คน หรือราวๆ 40% เลยทีเดียว

而这次沉船事件则让中方感到十分忧虑,召集了中泰双方共同解决问题。会议中中方代表公布了一组数据:在2017年,中国游客因事故丧生的人数高达98人,其中因溺水而身亡的有65人。而之前一年因溺水而丧生的人数则为165人。

 

ผู้แทนจีน ยังบอกอีกว่า ประเทศไทยเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจีนต่อเนื่องมาเป็นเวลา3ปี โดยในปี 60 คนจีนไปเที่ยวต่างประเทศ 60 ล้านคน ซึ่ง 1 ใน 6 คนมาเที่ยวประเทศไทย นั่นแปลว่าปี 60 มีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวประเทศไทยถึง 10 ล้านคน หรือเท่ากับ 1ใน 3 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย

中方代表还表示,泰国在最近三年都是中国游客出国游的首选目的地。2017年出国旅游的中国人高达6000万人次,而其中六分之一的人选择了泰国。这就是说22017年中国赴泰旅游达到了1000万人次,相当于中国游客占据了当年泰国所有外籍游客的三分之一。

 

จนถึงวันนี้กรณีเรือล่มที่ภูเก็ตไม่รู้ผลสอบเป็นอย่างไร?? ใครต้องรับผิดชอบบ้าง และมีการลงโทษคนที่เกี่ยวข้องอย่างไร??

到目前为止,普吉岛沉船事件依然没有明确的调查结果。究竟谁要对事故负责?涉事人员应该如何处罚?

 

แต่ที่เห็นชัดๆ คือ ธุรกิจท่องเที่ยวไทยได้รับผลสะเทือนอย่างมิอาจปฏิเสธได้ จากสถิติตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนตกฮวบ “กรุ๊ปทัวร์” หายไปกว่า 60% โรงแรม ที่พักต่างๆ ถูกยกเลิกการจองห้องไปจำนวนมาก และทำให้วันนี้สถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับคืนมา

但是结果已经很明显,数据不容置疑地告诉我们,泰国旅游业已经因为此事受到了严重的冲击。来自中国的旅游团已经减少了60%以上,酒店的预订被大量取消。而且这种趋势并没有任何扭转的迹象。

ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก...เมื่อเร็วๆ นี้มีปัญหาใหญ่เพิ่มมาอีก 2 เรื่องที่โยงเกี่ยวเนื่องกันเมื่อมีเรื่องอื้อฉาว เมื่อสื่อออนไลน์ของจีนเผยแพร่และแชร์คลิปชาวจีนถูกเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานของไทยตบ และทำร้ายร่างกายกลางสนามบินดอนเมืองขณะทำวีซ่าหน้าด่าน โดยระบุสาเหตุว่า เพราะไม่ได้ทิปจากนักท่องเที่ยว ไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรแต่ข่าวนี้กระจายว่อนโลกโซเชียลฯ รับ “วันชาติจีน” ปกติจะถือว่าเป็น “โกลเด้นวีก” สำหรับนักท่องเที่ยวจีน ที่แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจะถือโอกาสนี้ท่องเที่ยวต่างประเทศปีละ 6-7ล้านคน

雪上加霜的是,最近又有新的负面消息被爆出。在中国社交媒体上有关中国游客在廊曼机场办理落地签因不给小费被工作人员殴打的视频大肆流传。虽然暂时还不知道具体事实究竟是怎样,但这个新闻在网络上已经迅速的扩散传播起来。而中国的国庆节通常也是中国游客的“旅游黄金周”,每年都有六七百万的中国游客选择这个时间段出游海外。

 

ขณะที่รัฐบาลไทยก็เฝ้ารอให้จีนกลับมาเที่ยวไทยเหมือนทุกๆ ปี แต่มีรายงานข่าวเว็บไซต์ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวของจีน ระบุว่า ปี 61 กลับพบว่าคนจีนหันไปจองตั๋วเดินทางไปญี่ปุ่นมากกว่าไทย

泰国政府依然像往年一样等待着来自中国的游客,但是已经有新闻报道称2018年中国游客赴日本旅游人数已经超过了赴泰游客人数。

เหตุการณ์เรือล่มภูเก็ต จนถึงการทำร้ายร่างกายที่สนามบินดอนเมือง ได้ทำลายภาพลักษณ์ประเทศป่นปี้ยับเยิน แถมยังลามถึงเรื่อง “เงินค่าทิป” ที่สื่อออนไลน์จีนออกมาแฉกระบวนการทำวีซ่า หรือการยื่นขอลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa On Arrival หรือ VOA) มีการเรียกเก็บเงินเกิน 2,000 บาทซึ่งเป็นตามระเบียบกำหนด แต่เอาเข้าจริงต้องจ่ายรายละ 2,300 บาท ใบเสร็จระบุจ่ายเพียง 2,000 บาทเท่านั้น

普吉沉船事件以及廊曼的打人事件已经让泰国的国际形象严重受损,并且第二起事件中还涉及了“索要小费”的情况。中国媒体称在廊曼办理落地签的时候所要支付的金额是2300铢,而收据上却只显示2000铢。这与规定的收费金额并不相符。

 

หากมาดูสถิตินักท่องเที่ยวที่มายื่นขอ Visa on Arrival (VOA) ในปีที่แล้วเกือบ 7 ล้านคน ถ้าลองคำนวณตัวเลขออกมา หากมีการรีดไถ คนละ 300 บาท คูณด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว7 ล้านคน นั่นแปลว่ามีเงิน “ส่วนเกิน” ราวๆ 2,100 ล้านบาท

2017年在机场办理落地签的游客有将近700万,如果每个人多收300泰铢,再乘以700万的游客数量,那意味着“多出来的部分”大约有21亿泰铢。

 

ลองคิดดูว่ามันมหาศาลขนาดไหน ทำให้เกิดคำถามตามมาว่าเม็ดเงินก้อนโตนี้ไปอยู่ที่ไหน เข้ากระเป๋าใคร น่าที่จะต้องมีการตรวจสอบกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่ติดป้ายประกาศ...NO TIP มันเป็นการแก้ที่ปลายเหตุเป็นการแก้แบบหน่อมแน้ม

这是多么大的一个数字!接下来的问题是:这么大一笔钱最后都去哪了?流进了谁的口袋?这是应该严肃调查的事件,而不是立一个“NO TIP”的牌子就能解决的。

 

อย่าลืมว่าเรื่องนี้ปรากฏเป็นข่าวบนโลกออนไลน์ของจีน ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวไทยอย่างมาก ที่สำคัญยิ่งตอกย้ำความไม่พอใจให้กับชาวจีนมากยิ่งขึ้นไปอีก.

这件事在中国的网络上大肆流传,给泰国旅游形象造成了非常大的影响,也让中国人对泰国的旅游环境更为不满。

 

作者:ทวี มีเงิน(泰国《每日新闻》 )

翻译:呐呐 (沪江泰语)

 

本双语文章的中文翻译系沪江泰语原创内容,转载请注明出处。中文翻译仅代表译者个人观点,仅供参考。如有不妥之处,欢迎指正。