“第三性别”向来都是非常敏感的话题,即使是在接受程度相对较高的泰国社会,这一问题也是时常被人们回避。可是,话题可以回避,事实却不可以 ,泰国的“第三性别”仍然在夹缝中生存,面临的问题也是层出不穷。当“第三性别”与“教师”被连在一起后,很多人表示接受不了,不希望“第三性别”的教师给学生错误的示范;但也有很多人出来捍卫“第三性别者”做教师的权力。这个话题最近又被泰国网友们拿出来热议。

หลังจากบนโลกโซเชียลมีการแชร์ความคิดเห็นว่า “เพศที่สามสามารถเป็นครูได้ไหม?” ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย เราจึงอยากนำเสนอมุมมองเกี่ยวกับเพศที่สาม และบทบาทความเป็นครู ว่าแท้จริงแล้วผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ครูนั้น ความสำคัญอยู่ที่อัตลักษณ์ทางเพศ หรือบทบาทหน้าที่แห่งความเป็นครู
在泰国社交媒体上最近又出现了“第三性别者是否可以做老师”这一话题的讨论,引来了大量网友的评论。今天,我想从“第三性别者”和“教师的作用”两个角度来分析,对于教师来说到底是性别更重要还是教师的教育作用更重要。

ย้อนกลับไปในระบบการศึกษาของไทยตั้งแต่อดีตไม่ว่าจะเป็นการเรียน ตลอดถึงเรื่องนาฏศิลป์ การแสดงทั้งในวัดหรือในวัง ต่างยกสิทธิให้กับเพศชายเป็นหลัก ส่วนฝั่งผู้หญิงนั้นไม่ค่อยมีบทบาทมากนัก กระทั่งต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการปฏิรูปประเทศให้ทันสมัยตามแบบตะวันตก ผู้หญิงจึงมีบทบาทในการศึกษา อาชีพต่างๆ รวมถึงมีความเสมอภาค ตามกฎหมายในปีพ.ศ. 2479 จากพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
回顾泰国的教育体系,不管是正式的学习,还是寺庙和宫廷内的舞蹈、表演学习,都主要是强调男性的作用,女性在这些活动中并没有很大的作用。直到曼谷王朝拉玛五世王发起的“西化”改革之后,根据1936年关于文官法的法规,女性在教育及职业中才有了作用和平等地位。

ถ้าเรามองในมุมการให้ความยอมรับว่าผู้หญิงเท่าเทียมกับผู้ชาย ในยุคสมัยนั้นก็เหมือนกันกับการให้ความยอมรับกับเพศที่สามในสังคมสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นครู รับราชการ หรือประกอบอาชีพใดๆ ก็ตาม เนื่องจากยุคสมัยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว และผู้คนก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคมากขึ้น เพราะหากเรา "เข้าใจ" ถึงการเปลี่ยนแปลง ความหลากหลายทางเพศสภาพ มันจะไม่มีคำว่า "ยอมรับ" แต่จะกลายเป็นคำว่า "เท่าเทียม" แทน
我们过去讨论“接受男女性平等”就好像是现在讨论“接受第三性别者”一样。在现代社会,不管是老师、公务员或者其他任何职业,随着时代改变,人们更加重视人权和平等。如果我们能够理解社会的改变,理解性别的多样性,“接受”这个词就不会存在,取而代之的应该是“平等”。

เราจึงควรมองคุณค่าของความเป็นครูที่ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ การเป็นแบบอย่างด้านความประพฤติให้กับนักเรียน นักศึกษา มากกว่าการมองว่าครูควรหรือไม่ควรเป็นเพศอะไร เพราะการให้เกียรติกับทุกคน ทุกเพศ และเข้าใจถึงความเท่าเทียมซึ่งกันและกัน ถือเป็นเรื่องดีต่อเยาวชน และคนรุ่นใหม่ที่จะได้เรียนรู้เรื่องการยอมรับ การสร้างความเข้าใจกับผู้อื่นเพื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม
因此我认为“教师”的价值在于传播知识、为学生在各方面充当榜样,而不是说教师应该是哪个性别。这是因为对每个人、每种性别给予理解、平等对于青少年来说是一件好事,我们的下一代才能学会接受、理解在这个社会其他成员的生活。

หรือแม้แต่ความกังวลว่า เด็กๆ จะลอกเลียนพฤติกรรมของครูเพศที่สามและทำให้เด็กเบี่ยงเบนนั้นคงไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องนัก เพราะเรื่องของความเป็นเพศใดนั้นอยู่ภายในจิตใจ และไม่สามารถเปลี่ยนแปลง หรือลอกเลียนแบบจากอิทธิพลภายนอก
有人会担心说学生可能会模仿第三性别者的行为,在性别问题上出现错乱。这样的担心可能是错误的,因为一个人的性别在于内心,是无法改变或者通过外部力量让其改变的。

อย่างที่เรากล่าวเอาไว้ข้างต้นว่ายุคสมัยเปลี่ยน ความคิดของคนและพฤติกรรมของคนก็เปลี่ยนไป ดังนั้นเราก็ควรที่จะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองตามยุคสมัยด้วย เพื่อการที่จะได้ใช้ชีวิตในสังคมอย่างมีความสุขและเคารพซึ่งกันและกัน
就像我在开始说的,社会变了,人们的思想和行为也跟着改变了。因此,我们应该根据时代调整自己的思想,只有这样才能幸福并且与其他成员和睦地生活在同一个社会中。

“第三性别者”从事教育事业,你怎么看?

 

声明本双语文章的中文翻译系沪江泰语原创内容转载请注明出处。中文翻译仅代表译者个人观点仅供参考。如有不妥之处欢迎指正。