兰纳,作为泰族早期建立的王国,曾经长时间统治着当今泰国的北部地区,留下了众多兰纳风格的文化遗产。难府,这个深居泰老边境的小府,就是是兰纳风格文化遗产的聚集地之一,尤其是充满兰纳风格的佛教寺庙。今天我们就带大家去看看难府最具特色的五大寺庙,一起去领略一下精妙绝伦的兰纳风格。

 

1. วัดพระธาตุแช่แห้ง
1. Wat Phra That Chae Haeng寺

วัดพระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่ที่อำเภอภูเพียง เดิมเป็นวัดราษฎร์ ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวง องค์พระธาตุสีทองเหลืองอร่าม เป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต และยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิด ของคนที่เกิดปีเถาะ (ปีนักษัตรกระต่าย) ด้วย ชาวล้านนาเชื่อว่า หากได้เดินทางไป “ชุธาตุ” หรือนมัสการพระธาตุประจำปีเกิดจะได้รับอานิสงส์อย่างยิ่ง
Wat Phra That Chae Haeng寺位于普平县,以前是一所民间寺庙,后来被升级为皇家寺庙,金光灿烂,是难城和素可泰城两座古城之间的友好关系的纪念;另外,这座寺庙还是兔年出生的朋友的守护寺庙,兰纳人相信,如果属兔的人走进这座寺庙跪拜,会给他们带来无限的功德。

 

2. วัดภูมินทร์
2. 普 明寺

วัดภูมินทร์ เป็นวัดหลวงเก่าแก่ของเมืองน่าน อายุกว่า 400 ปี ความสวยแปลกของวัดนี้คือ เป็นวัดที่สร้างทรงจัตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาคขนาดใหญ่ 2 ตัว โบสถ์และวิหาร สร้างเป็นอาคารหลังเดียวกัน ด้านในประดิษฐาน พระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันหน้าออกด้านประตูทั้ง 4 ทิศ
普明寺是难府一座古老的寺庙,有超过400年的历史,它的独特之处就在于是泰国唯一一座四面体结构的寺庙,看起来很像有两条巨大的娜迦盘踞在后方,佛堂和僧舍是一体化的结构 ,内部供奉了四座巨大的佛像,朝向四个方向的门。

รวมถึงมีภาพจิตรกรรม ปู่ม่านย่าม่าน หรือ หนุ่มกระซิบ แบบฉบับดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงไปทั่ว หลายคนรู้จักกันในชื่อ ภาพกระซิบรักบันลือโลก และสิ่งนี้เหมือนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองน่านไปซะแล้ว
还有一副世界闻名的古老 壁画,很多人都以它“伟大的低语者”的名字而熟知,这个壁画已经成为了整个难府的象征。

 

3. วัดมิ่งเมือง
3. Wat Ming Muang寺

สักการะ เสาหลักเมือง ประจำจังหวัดน่าน ที่ประดิษฐานอยู่ในศาลาจตุรมุขด้านหน้าพระอุโบสถของ วัดมิ่งเมือง ก่อนจะเข้าไปกราบไหว้พระประธานด้านในพระอุโบสถ และชมภาพจิตกรรมฝาผนังที่แสดงให้เห็นวิถีชีวิตของชาวเมืองน่าน ความเป็นมาตั้งแต่เจ้าผู้ครองเมืองน่านคนแรกจนถึงคนสุดท้าย
在进入佛堂拜佛之前 ,可以先参拜一下Wat Ming Muang寺佛堂前四面结构凉亭中供奉的难府“城柱”,还可以欣赏到反映了难府民众生活和难城从首位至最后一位城主的故事的壁画艺术。

นอกจากนี้ รอบนอกของพระอุโบสถ ยังมีความอ่อนช้อยงดงาม ด้วยลวดลายปฏิมากรรมปูนปั้นสีขาวทั้งหลัง ซึ่งลวดลายนั้นเกี่ยวกับสัตว์หิมพานต์ และตัวละครต่างๆ ในวรรณคดี
除此之外,佛堂的四周还有美丽 白皙的花纹雕刻,雕刻的内容以文学作品中的动物和一些人物角色为主,非常精美。

 

4. วัดศรีพันต้น
4. Wat Si Panton寺

วัดศรีพันต้น สร้างโดยพญาพันต้น เจ้าผู้ครองนครน่าน บางสมัยเรียกว่า วัดสลีพันต้น (คำว่า สลี หมายถึง ต้นโพธิ์) เนื่องจากในอดีตมีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่ด้านทิศเหนือและทิศใต้ของวัด แต่ปัจจุบันถูกโค่นเป็นถนนแล้ว
 Wat Si Panton寺由难城的城主Phaya Phan Ton建立,有些时期它也被称作Wat Salee Panton寺(Salee意为菩提树),因为之前在寺庙的北方和南方分别有两颗大菩提树,但现在已经被 砍掉修成平整的马路了。

เป็นวัดที่โดดเด่นด้วยวิหารสีทองอร่าม เมื่อต้องแสงแดดหรือแสงไฟยามค่ำ จะระยิบระยับสวยงาม ด้านในมีพระพุทธรูปประธาน ชื่อว่า “พระพุทธสลี” รวมถึงภาพเขียนลายเส้นประวัติของพระพุทธเจ้า และประวัติเมืองน่าน ด้านนอกมีพญานาคเจ็ดเศียรตั้งเด่นเป็นสง่าเฝ้าบันไดวิหาร
这座寺庙以其 金碧辉煌的佛舍著称,当被阳光或是晚上的灯光照射之后,会金光闪闪得非常漂亮,里面供奉了Salee佛祖像,另外还有讲述了佛祖和难城历史的壁画,外部有七只娜迦盘踞,像在守护着寺庙一样。

 

5. วัดพระธาตุช้างค้ำ
5. Wat Phra That Chang Kham Voravihara寺

วัดพระธาตุช้างค้ำ แต่เดิมเรียกว่า “วัดหลวงกลางเวียง” ตั้งอยู่ตรงข้าม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครน่าน (หอคำ) ภายในมีวิหารหลวง ขนาดโอ่โถง สร้างตามสถาปัตยกรรมล้านนาไทย และเจดีย์ช้างค้ำ สีทองอร่าม เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มีรูปปั้นช้างปูนปั้น เพียงครึ่งตัวประดับอยู่โดยรอบ
Wat Phra That Chang Kham Voravihara寺原来叫做Wat Luang Klang Wiang寺,是难城的博物馆,内部有兰纳风格的僧舍,还有金色的佛塔,内部供奉着佛舍利,四周还 有大象的雕刻,但只有大象的半身。

ถัดมาใกล้ๆ ยังมีหอพระไตรปิฎก ที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ด้านในมีพระพุทธรูปทองคำปางลีลา คือ พระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี ที่สง่าและงดงามมากๆ ให้กราบไหว้ขอพรกันด้วย
距离很近的地方还有被视为泰国最大的三藏经藏经阁,内部供奉着美丽并且庄严的释迦摩尼佛像,供人们跪拜许愿。

 

声明本双语文章的中文翻译系沪江泰语原创内容转载请注明出处。中文翻译仅代表译者个人观点仅供参考。如有不妥之处欢迎指正。