泰国九世王普密蓬·阿杜德的音乐才华是受到公认的。九世王,热爱音乐,不仅是自己喜爱创作,为了培养新一代年轻人的音乐热情,更是多次到高校中开私人演奏会,跟学生们交流音乐。起源于60多年前的“演奏日”,如今也已经成为国民思念九世王的节日。那“演奏日”是如何诞生的呢?让我们移步往下~

วันนี้เมื่อ 62 ปีก่อน คือวันที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินตามคำกราบบังคมทูลเชิญของมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, เพื่อทรงดนตรีและทรงสังสรรค์ร่วมกับนิสิตนักศึกษาเป็นการส่วนพระองค์ โดยในการนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงรวมทั้ง สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ก็จะโดยเสด็จพระราชดำเนิน และทรงร่วมในการแสดงดนตรีด้วย
62年前的的今天,是普密蓬·阿杜德国王私人应多个大学的邀请,包括朱拉隆功大学、法政大学、农业大学、诗纳卡琳大学,与大学生一起演奏音乐的日子。在这次活动中,诗丽吉王后携同王子和公主也一起观看了演出。

โดยที่สุดแล้วในวันนี้ หรือ วันที่ 16 กรกฎาคม จึงนับเป็น “วันทรงดนตรี”
最后,7月的今天即16号就变成了泰国的“皇家演奏日” 。


สำหรับประวัติที่มาของ "วันทรงดนตรี" ถือกำเนิดมาจากพระมหากรุณาธิคุณพิเศษที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรพระราชทานแก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สืบเนื่องมาจากวันพระราชทานปริญญาบัตร ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2500 และในท้ายพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรได้ทรงแจ้งข่าวต่อที่ประชุมว่า "พระองค์ทรงเสียพระราชหฤทัยมากที่มิได้ประทับอยู่เพื่อเสวยพระสุธารสในวันนั้นได้ อย่างที่เคยทุกๆ ปีมา เพราะสมเด็จพระบรมราชินีนาถกำลังจะประสูติเจ้าฟ้าฯ"
关于“皇家演奏日”的由来,起源于普密蓬国王1957年7月4日御驾亲临朱拉隆功大学颁发毕业证书之时。最后,在颁发仪式上,普密蓬国王派人传来口谕说:因为诗丽吉王后正在生产,自己非常遗憾没能像以前一样留下喝杯茶就得离开。

และด้วยเหตุที่สมเด็จเจ้าฟ้าพระองค์ใหม่ประสูติในช่วงเวลาที่เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาาช บรมนาถบพิตรจึงมีพระราชประสงค์จะพระราชทานนามให้มีคำว่า “จุฬา” อยู่ในพระนามนั้นด้วย และก็ได้พระราชทานนามว่าเจ้าฟ้า “จุฬาภรณ์”
因为新公主是在亲临朱拉隆功大学颁发毕业证书时降生的,所以普密蓬国王有意用“朱拉”给新公主起名,最后定名为“朱拉蓬”公主。

ต่อมาคณะนิสิตได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายของขวัญและถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
之后,朱拉隆功大学的学生会进书请求觐见,希望向朱拉蓬公主殿下进献礼物和祝福。

มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นิสิตเข้าเฝ้าฯ ในวันที่ 6 กันยายน 2500 ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร เนื่องจากวันนั้นตรงกับวันศุกร์ ซึ่งเป็นวาระที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรจะทรงดนตรี กับ วงลายคราม เพื่อออกอากาศทางสถานีวิทยุ อ.ส.
普密蓬国王同意了学生们的请求,于1957年的9月6日在Amphorn广场的演奏厅中接见了学生们。那天刚好是星期五,是普密蓬国王要跟Lay Kram乐队演奏音乐并通过皇家广播台放送的日子。

ในวันนั้นพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีรับสั่งให้นิสิตทำตัวตามสบายไม่เป็นทางการ ให้ถือว่าอยู่ในบ้านของพระองค์ท่าน พระองค์ทรงเดี่ยวแซกโซโฟนพระราชทานแก่นิสิต
那天,普密蓬国王嘱咐学生们自在点、不用拘谨,就当作是到国王的家做客。普密蓬国王还给学生们单独演奏了萨克斯。

และผู้ขอฟังเพลง ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ทรงขอฟังเพลงจากวงดนตรีและให้นิสิตร้องเพลงมหาจุฬาลงกรณ์อีกด้วย
旁边的观众:诗丽吉王后和王子、公主还向乐队点歌并让学生们唱起朱拉隆功的校歌。

【加视频】(微信后台)
九世王与乐队演奏的诗篇

ต่อมาในปี พ.ศ. 2501 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรได้พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณนำวงลายครามไปแสดงดนตรีที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรยากาศของงานคล้ายกับการแสดงดนตรีที่สวนอัมพร
之后到了1958年,普密蓬国王带着Lay Kram乐队亲临朱拉隆功大学的会议大厅进行演出,演奏会的氛围跟Amphorn广场时的一样融洽。

ฉะนั้น งานวันทรงดนตรี เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2501 ณ หอประชุมจุฬาฯ ซึ่งเป็นปีแรกที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มาทรงดนตรีที่จุฬาฯ และยังได้พระราชทานข้อคิดแก่นิสิตจุฬาฯ อย่างไม่ถือพระองค์ สร้างบรรยากาศอันอบอุ่น ความเป็นกันเอง บรรยากาศแห่งความทรงจำในครั้งนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในใจของนิสิตเก่าจุฬาฯ สืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน
因此,皇家演奏日活动,开始于1958年7月16日的朱拉隆功大学会议大厅,即普密蓬国王协同诗丽吉王后在朱大正式演奏的第一年,并且不计较身份地给朱大学子们以建议,营造了温馨、亲密的氛围环境,这深深的印刻在了老一辈朱大学子的心中,温暖持续至今。

จากนั้น ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงกราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเสด็จพระราชดำเนินทรงดนตรีที่หอประชุมจุฬาฯ เป็นประจำทุกปี เว้นปีที่มีพระราชภารกิจมาก คือ เสด็จพระราชดำเนินต่างประเทศ และหากไม่มีพระราชภารกิจ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมทั้งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอก็จะโดยเสด็จพระราชดำเนิน และทรงร่วมในการแสดงดนตรีด้วย
至此以后,除了有时普密蓬国王有公务需要出国访问,朱拉隆功大学都会邀请国王到会议大厅演奏音乐,并成为了每年的惯例。如果没有公务要处理,诗丽吉王后和王子公主也会一同出席演奏会。

หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรยังได้เสด็จทรงดนตรีตามคำกราบบังคมทูลเชิญของมหาวิทยาลัยต่างๆ อีกหลายแห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนคริทรทรวิโรฒ เพื่อทรงดนตรีเป็นการส่วนพระองค์อีกหลายครั้ง
之后普密蓬国王也多次到其他大学,像法政大学、农业大学和诗纳卡琳大学里进行私人演奏。

อย่างไรก็ดี ต่อมาวันทรงดนตรีได้ยุติลงไป เนื่องจากมีพระราชกรณียกิจมากมายและสถานการณ์ไม่เอื้อต่อการเสด็จพระราชดำเนินมาทรงดนตรี
然而之后,因为公务的繁忙加上局势的限制使得国王无法继续坚持演奏,这件事情就中断了。

โดยรวมแล้วพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จฯ มาทรงดนตรีที่จุฬาฯจำนวน 15 ครั้ง  โดยเสด็จฯมาทรงดนตรีเมื่อวันที่ 20  กันยายน  2516 เป็นปีสุดท้าย แต่ต่อมา ช่วงปี 2543 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้มีการจัดงานวันที่ระลึกวันทรงดนตรี ในวันที่ 20  กันยายน ของทุกปี  ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
统计下来,普密蓬国王在朱拉隆功大学里一共演奏了15次,1973年的9月20日则是最后一次演奏。接下来到了2000年,朱拉隆功大学在9月20日举办了演奏日的纪念活动。至此以后每年9月20日都会举办这个活动,一直延续到今日。

(上文提到的7月16日,是正式的皇家演奏日,而9月20日是九世王最后一次在朱大的演奏,这一天也变成了后来朱大每年会举办纪念活动的日子。)

อนึ่ง วงลายคราม (Lay Kram) เป็นวงดนตรีในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งทรงตั้งขึ้นที่พระที่นั่งอัมพรสถานภายหลังเสด็จนิวัตประเทศไทย เล่นดนตรีในแนวแจ๊ส Dixieland ซึ่งมีความสนุกสนานเบิกบาน เปิดโอกาสให้ผู้เล่นแสดงความสามารถเฉพาะตัว
值得一提的是,乐队Lay Kram是普密蓬国王回到泰国后在Amphorn Sathan行宫组建的一支乐队,演奏Dixieland爵士音乐(传统爵士乐),曲风欢快,能让演奏者充分展示自己的演奏能力。

“วงลายคราม” ประกอบด้วยนักดนตรีสมัครเล่นทั้งหมด ซึ่งล้วนเป็นพระราชวงศ์ผู้ใหญ่ที่พระองค์ทรงคุ้นเคยมาแต่ทรงพระเยาว์ อาทิ หม่อมเจ้าวิมวาทิตย์ รพีพัฒน์ห ม่อมเจ้าแววจักร จักรพันธุ์ห ม่อมหลวงเดช สนิทวงศ์ หม่อมเจ้ากมลีสาน ชุมพล หม่อมหลวงอุดม สนิทวงศ์ หม่อมราชวงศ์พงศ์อมร กฤดากร หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช หม่อมเจ้าชุมปกบุตร ชุมพล หม่อมหลวงประพันธ์ สนิทวงศ์ นายดำเกิง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา  นายสุรเทิน บุนนาค  นายแมนรัตน์ ศรีกรานนท์ นักร้องของวงลายครามได้แก่ หม่อมเจ้ามุรธาภิเศก โสณกุล หม่อมเจ้าขจรจบกิตติคุณ กิติยากรเป็นต้น
Lay Kram乐队的成员都是由志愿演奏者组成,也都是普密蓬国王从小就认识的王室伙伴。比如蒙昭Wimawit Rapeephat、蒙昭Waewchak Chakaphan、蒙銮Dech Sanitwong、蒙昭Kamalansan Chumphon、蒙銮Udom Sanitwong、蒙拉差翁Pongamorn Kridakon、蒙拉差翁Seni Pramot、蒙昭Chumpokbut Chumphon、蒙銮Praphan Sanitwong、大城府的Khumkaeng Sanitwong先生、Suren Bunnag先生和Manrat Srikranon先生。乐队的演唱者有:蒙昭Murathapisek Sonakul、蒙昭Khchornchom kittikun Kitiyakorn等等。

注:在1932年泰国实行君主立宪后,泰王已不再为非王族进行封爵。王族分为昭华(Chao Fa)、拍翁昭(Phra Ong Chao)蒙昭(Mom Chao)三等;蒙昭的子女称为蒙拉差翁(Mom Rajawongse);蒙拉差翁的子女称为蒙銮(Mom Luang)。以上若用中文来称呼,除了“蒙拉差翁”需尊称为“阁下”之外,其他都可尊称为“殿下”。(信息来源:wikipedia)

เนื่องจากวงลายคราม เป็นวงดนตรีของนักดนตรี นักร้องสมัครเล่น หลายครั้งที่นักดนตรีมักจะเล่นผิดๆ ถูกๆ แต่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ก็มีพระมหากรุณาธิคุณ ทรงแนะนำ พระราชทานกำลังใจ ให้ทุกคนมีความสนุกครึกครื้นอยู่กับการเล่นดนตรีอยู่เสมอ วงลายครามจะมาร่วมเล่นดนตรี ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ทุกเย็นวันศุกร์
因为乐队的演奏者和演唱者都是志愿的,好几次演奏的时候错错对对,但普密蓬国王总是贴心的鼓励演奏者放轻松。 每逢周五的傍晚,乐队就会在Amphorn行宫里演奏音乐。

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชนิพนธ์เพลง Lay Kram Goes Dixie พระราชทานให้เป็นเพลงประจำวง
普密蓬国王还创作了歌曲Lay Kram Goes Dixie作为乐队的队歌。

มาฟังเพลงอันทรงคุณค่าเพลงนี้ เพื่อรำลึกถึงองค์พ่อหลวง ร. 9 ของปวงชนชาวไทยกันดีกว่า
来一起听听这首歌缅怀泰国人民的九世王吧。


>>歌曲 & 九世王与乐队演奏的诗篇

如此亲民的先王,怎能让百姓不爱戴呢?

 

声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自komchadluek,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。