泰国和柬埔寨在古代的历史的关系可以说是你中有我,我中有你了。你知道吗,就连柬埔寨最最著名的吴哥窟,也曾经差点被搬到泰国,这个历史事件竟然还和泰国著名的玉佛寺有关,到底是怎么回事呢?今天我们带你一探究竟。



ที่ว่ารัชกาลที่ 4 เคยจะให้รื้อปราสาทนครวัดกัมพูชามาไว้ที่เมืองไทย เรื่องราวเป็นอย่างไร
据说在曼谷王朝四世王时期曾经下令要将柬埔寨的吴哥窟搬到泰国,事情到底是怎么回事呢?

นักวิชาการประวัติศาสตร์ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ เล่าถึงเรื่องนี้และเว็บไซต์ศิลปวัฒนธรรมนำมาเผยแพร่ในบทความเรื่อง “เกร็ดประวัติศาสตร์-การรื้อปราสาทขอมสมัยรัชกาลที่ 4” ดังนี้
历史学家 Charnwit Kasetsiri 讲 到了这件事,并且发布在文化艺术网站上的文章《历史杂文-拉玛四世搬迁吴哥窟》表述如下:

“พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4” ฉบับของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค พ.ศ. 2356–2413) มีเรื่องราวที่แปลกประหลาดและน่าสนใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับการรื้อปราสาทขอมในกัมพูชา เพื่อนำเข้ามาไว้ในสยามประเทศสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
昭披耶 Thiphakornwong(Kham Bunnag 1813-1870年)版本的《曼谷王朝四世王史记》记录了很多件关于曼谷王朝拉玛四世王要将柬埔寨的吴哥窟拆掉,搬迁至暹罗的历 史奇闻和趣闻。



กล่าวคือ รัชกาลที่ 4 มีพระราชดำริว่าให้ไปรื้อปราสาทหิน “นครวัด” ของกัมพูชาที่เมืองเสียมราฐ (เสียมเรียบ) เข้ามาไว้ในกรุงเทพฯ และเพชรบุรี และได้ให้ “พระสุพรรณพิศาล ขุนชาติวิชา ออกไปเที่ยวดูที่เมืองหลวงพระนครธมพระนครวัด กลับมา กราบทูลว่า มีแต่ปราสาทใหญ่ๆ ทั้งนั้น จะรื้อเอาเข้ามาเห็นจะไม่ได้” จึงมีรับสั่งให้ไปรื้อ ปราสาทตาพรหม ซึ่งมีขนาดย่อมกว่า
里面讲到说,拉玛四世下令要将柬埔寨暹粒的吴哥窟拆掉,然后在曼谷和佛丕府府重建,“派 Khunchatwich 前往吴哥窟考察,但是他回来禀告拉玛四世说吴哥窟的建筑都非常巨大,不太 可能搬迁过来。”于是又下令将小一点的塔普伦寺搬迁至泰国。

พระราชพงศาวดารฯ กล่าวต่อไปว่ามีการส่งคนออกไป “4 ผลัด ผลัดละ 500 คน ให้แบ่งเป็นกองชักลากบ้าง กองส่งบ้าง…ตั้งพลีกรรมบวงสรวง ได้ลงมือรื้อปราสาทเมื่อ ณ วันเดือน 6 ขึ้น 9 ค่ำ”
史记记录到,共派出了“4班人马,每班500人,有负责拖拉的,有负责运送的,还举行了祭祀仪式,于佛历六月初九启动了拆卸工作”。

เหตุการณ์รื้อปราสาทด้วยจำนวนไพร่พลถึง 2 พันคนนี้ เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2419 ตรงกับรัชสมัยของกษัตริย์กัมพูชา คือ พระเจ้านโรดม ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 2402-47 สมัยนั้นกัมพูชาตกต่ำอ่อนแอจนกลายเป็นประเทศราชของทั้งสยามและเวียดนาม ก่อนที่จะหนีไปยอมรับการเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2410 ในสมัยดังกล่าวเมืองเสียมราฐ (หรือเสียมเรียบ) และเมืองพระตะบอง ยังขึ้นโดยตรงกับกรุงเทพฯ โดยมีขุนนางท้องถิ่นตระกูลอภัยวงศ์ปกครองอยู่ และพระสุพรรณพิศาล ขุนนางเมืองนี้นั่นแหละ ที่ถูกรับสั่งให้ไปเป็นหัวหน้าควบคุมการรื้อปราสาทตาพรหม
搬迁寺庙共动用了2000人力,开始于1876年,正值当时的柬埔寨纳罗多国王执政(1859-1904在位),当时的柬埔寨十分孱弱,沦落为暹罗和越南的属国,在1876年还成为了法国的庇护国。当时, 暹粒和马德望仍然直接隶属于曼谷,有当地的官员和 Phrasuphanphisan 负责统治,也负责塔普伦寺的拆迁工作。



เราไม่ทราบเหตุผลเบื้องหลังที่แน่ชัดว่าทำไมรัชกาลที่ 4 ถึงโปรดจะให้รื้อปราสาทหินมหึมาจากกัมพูชาในช่วงนั้นขณะที่ฝรั่งเศสกำลังคืบคลานเข้ามาเขมือบดินแดนอินโดจีน แต่ที่น่าสนใจก็คือ การรื้อถอนปราสาทหินครั้งนั้นล้มเหลว และพระราชพงศาวดารฯ กล่าวไว้อย่างน่าตกใจว่า มีเขมรประมาณ 300 คนออกมาแต่ป่า เข้ายิงฟันพวกรื้อปราสาท ฆ่าพระสุพรรณพิศาลตายคนหนึ่ง พระวังตายคนหนึ่ง บุตรพระสุพรรณพิศาลตายคนหนึ่ง ไล่แทงฟันพระมหาดไทย พระยกกระบัตรป่วยเจ็บหลายคน แต่ไพร่นั้นไม่ทำอันตราย แล้วหนีเข้าป่าไป
我们无法得知背后发生了什么事情,为什么拉玛四世要下令从柬埔寨拆迁寺庙到暹罗。当时,法国正在逐步蚕食柬埔寨、老挝、越南地区的土地,但是值得注意的是,这次 寺庙的拆迁以失败告终,因为史记记载,有大约300个高棉人从树林窜出,开枪射击正在拆卸寺庙的人,暹罗的多位官员死伤,士兵也纷纷逃进了树林。

เป็นอันว่าในสมัยนั้น มีชาวกัมพูชาหรือเขมรตั้งตัวเป็นเสมือนกองจรยุทธ์และก็โกรธแค้นการลักลอบเข้าไปรื้อปราสาทของเขาถึงขนาดยิงฟันบรรดาขุนนางหัวหน้าที่ควบคุมไปล้มตายเป็นจำนวนมาก และก็เป็นเหตุทำให้รัชกาลที่ 4 ต้องทรงระงับโครงการรื้อปราสาทหินดังกล่าว เปลี่ยนเป็นให้จำลองปราสาทนครวัดเล็กๆ ดังที่พระราชพงศาวดารฯ ได้กล่าวไว้ว่า “ให้ช่างกระทำจำลองตามที่ถ่ายเข้ามานั้นขึ้นไว้ในวัดพระศรีรัตนศาสดารามจนทุกวันนี้” ซึ่งก็คือที่วัดพระแก้ว ในพระบรมมหาราชวังนั่นเอง
当时的柬埔寨人或称高棉人自己建立了部队,对于暹罗进入柬埔寨拆卸寺庙非常气愤,所以就朝负责管理拆解寺庙的暹罗官员开枪了,这也导致了拉玛四世不得不中止了这个拆迁寺庙的想法。改成了仿制一座小型的吴哥窟,就像史记记载的那样“命令工匠根据拍摄来的寺庙信息在玉佛寺内仿制”,这座寺庙也就是当今在大皇宫内的玉佛寺。



不得不说,国王或者皇帝尽管手握万金,兵权无上,但也是有无法到手的东西呀!现在,像深圳世界之窗这样的景点,让我们不出国门就能领略外面的著名景点,感叹一句:生活在现代的人们真幸福呀!

关于搬运吴哥窟的这个事,你们觉得呢?


声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自khaosod,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。