作为句尾常用的语气词,男性使用的 Krap 和女性使用的 Ka 以超高频率出现在大家的泰语课本中,老师会告诉我们加上这两个词会让我们变得更加礼貌,我们也就习以为常地用在我们的泰语中了。不知道各位小伙伴们有没有思考过,为什么泰国人说完话总喜欢加上这两个词,它们到底是怎么来的呢?


“ภาษาไทย” คือภาษาที่ไม่มีวันตายเพราะเป็นภาษาที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีพัฒนาการการสื่อสารทั้งรูปแบบอักษรและการพูดมาตั้งแต่สมัยโบราณ จนถึงปัจจุบันก็เกิดคำศัพท์แปลกใหม่ขึ้นมาเสมอและวิธีการพูดก็เปลี่ยนไปตามสมัยเช่นเดียวกัน
泰语是一个永远 不会消亡的语言,自古以来,泰语的语音和书写形式都在不断发展,时至今日也随着时代改变而不断产生新的词汇和用法。



ผู้ที่เคยศึกษาเอกสารเก่า ๆ ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของภาษาไทยได้ชัดเจน เช่นคำว่า “เปน” ซึ่งปัจจุบันจะสะกดว่า “เป็น” และยังมีคำอื่นอีกมากที่เลิกใช้หรือเปลี่ยนใช้คำอื่นแทน ส่วนวิธีการพูดในยุคนี้คงไม่มีใครพูดว่า “เพลานี้กี่โมงยามแล้ว” หรือแม้แต่ในยุคภาพยนตร์ฟิล์มไทย (ในยุคมิตร-สมบัติ) ที่นิยมใช้คำว่า “กัน” ซึ่งเป็นสรรพนามบุรุษที่ 1 ใช้แทนตัวผู้พูดเพศชายพูดกับคู่สนทนาในทำนองกันเอง และในปัจจุบันคำนี้ก็แทบเลือนหายไปแล้ว
研究旧文献的人会清楚地看到泰语的变化,就比如“เปน”这个词,现在拼写成“เป็น”,还有很多词发生了变化或者被新词替代。在口语方面,现在应该也没有人再说 :“เพลานี้กี่โมงยามแล้ว”;再好比泰国的胶片电影时代,还非常流行用“กัน”这个词来做第一人称代词,男性会在聊天时表示亲昵,现在这个词却几乎已经见不到了。



ในยุคที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีคือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม มีการเปลี่ยนแปลงภาษาไทยขนานใหญ่เพื่อขานรับนโยบาย “รัฐนิยม” เพื่อเสริมสร้างความเป็นไทย ทั้งปรับวิธีการสะกด ลดทอนการใช้ตัวอักษรบางตัว และออกประกาศให้ประชาชนเปลี่ยนวิธีการใช้คำศัพท์ในภาษาไทย
在銮披汶担任泰 国总理的时候,为了迎合“政府主义”,加强泰国特色,发起了大规模改动泰语的活动,包括调整拼写方法、弃用部分字母,颁布公告让民众改变泰语的使用方法。


(图为銮披汶)

“กรรมการส่งเสิมวัธนธรรมภาสาไทย” ให้เหตุผลถึงเรื่องการปรับปรุงตัวอักษรว่า “สมควนจะปรับปรุงตัวอักสรไทยให้กระทัดรัดเพื่อได้เล่าเรียนกันได้ง่ายยิ่งขึ้น ได้พิจารนาเห็นว่าตัวสระและพยัญชนะของภาสาไทยมีอยู่หลายตัว ที่ซ้ำเสียงกันโดยไม่จำเป็น ถ้าได้งดใช้เสียบ้างก็จะเป็นความสดวกไนการสึกสาเล่าเรียนภาสาไทยไห้เป็นที่นิยมยิ่งขึ้น”
“泰语文化促进委员会”给出了调整文字的理由:“为了让学习更加简便,应该调整泰语的字母使其更加紧凑,经过考究,发现泰语里有许多元音和辅音字母发音相同,如果能够 弃用部分字母,可以让泰语学习更加方便。”(ps:大家注意当时很多单词拼写和现在不一样哦!)

รัฐบาลจึงออก “ประกาสสำนักนายกรัถมนตรี เรื่องการปรับปรุงตัวอักสรไทย” ลงวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2485 ให้ตัดพยัญชนะเหลือ 31 ตัว เช่น ตัด ฐ.ฐาน เปลี่ยนใช้ ถ.ถุงแทน (ฐาน-ถาน, รัฐ-รัธ) และตัดสระ ใ, ฤ, ฤา, ฦ, ฦา ออกไป ยกตัวอย่างคำที่ปรากฏในเอกสารราชการสมัยนั้น เช่น วิเสส บุรุส พรึสภาคม ปรึกสา ภาสาไทย โคสนา ปติเสธ ประกาส คนะรัถมนตรี ฯลฯ
于是,政府在1942年5月29日发表了“关于调整泰语字母的政府公告”,将辅音字母缩减为31个,例如,删除了 ฐ.ฐาน,用 ถ.ถุง 来替代(ฐาน-ถาน, รัฐ-รัธ),删除了 ใ, ฤ, ฤา, ฦ, ฦา  等元音字母,例如一些曾经出现在政府文件中的词:วิเสส บุรุส พรึสภาคม ปรึกสา ภาสาไทย โคสนา ปติเสธ ประกาส คนะรัถมนตรี等。



ส่วนการเปลี่ยนวิธีการใช้คำศัพท์ในภาษาไทยนั้นมีปรากฏใน “ประกาสสำนักนายกรัถมนตรี เรื่องวางระเบียบคำแทนชื่อ และคำรับ คำปติเสธ” ลงวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2485 อันสืบเนื่องจากการใช้สรรพนามของประชาชนที่มีหลากหลาย รัฐบาลจึงต้องการให้เป็นแบบแผนเหมือนกันทั้งหมดคือ
在泰语词汇使用方面,也在1942年6月22日颁布的“关于调整泰语人称代词、应答词及否定词用法的政府公告”有所提及,由于民众人称代词的使用非常繁杂,政府因此设计了统一的 使用方案:

  • สรรพนามบุรุษที่ 1 ให้ใช้คำว่า ฉัน (เอกพจน์) เรา (พหูพจน์)
  • 第一人称代词ฉัน( 单数)เรา(复数)
  • สรรพนามบุรุษที่ 2 ให้ใช้คำว่า ท่าน (เอกพจน์) ท่านทั้งหลาย (พหูพจน์)
  • 第二人称代词ท่าน(单 数)ท่านทั้งหลาย(复数)
  • สรรพนามบุรุษที่ 3 ให้ใช้คำว่า เขา (เอกพจน์) เขาทั้งหลาย (พหูพจน์)
  • 第三人称代词เขา( 单数)เขาทั้งหลาย(复数)
  • สรรพนามเรียกสิ่งของ ให้ใช้คำว่า มัน (เอกพจน์) พวกมัน (พหูพจน์)
  • 物品代词มัน (单数)พวกมัน (复数)


ส่วนคำตอบรับให้ใช้คำว่า “จ้ะ” คำปฏิเสธให้ใช้คำว่า “ไม่”
应答词用“จ้ะ ”,否定词用“ไม่”。

ต่อมา ปรากฏว่าคำตอบรับและปฏิเสธไม่เป็นที่นิยมของประชาชน จึงออกประกาศใหม่อีกฉบับ ลงวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2486 ระบุว่า คำตอบรับผู้ชายให้ใช้ “ครับ” คำตอบรับผู้หญิงให้ใช้ “ค่ะ” คำปฏิเสธให้ใช้ “เปล่า”
后来,发现规定好的应答词和否定词并不受到民众的欢迎,于是政府又在1943年8月24日颁布了新的公告,规定男性的应答词为“ครับ”,女性的应答词为“ค่ะ”,否 定词为“เปล่า”。

นอกจากนี้รัฐบาลยังอ อกประกาศให้เปลี่ยนมาใช้ “เลขไทย” แทน “เลขอาราบิก” ตามประกาศ “เรื่องการใช้เลขสากลเป็นเลขไทย” ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2485
另外,政府还在1942年11月29日“关于使用泰语数字替代国际通用数字”的公告中提到了,使用泰语数字代替国际通用的阿拉伯数字。



เมื่อจอมพล ป. กราบบังคมทูลลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2487 เนื่องจากสภาไม่อนุมัติพระราชกำหนดกำหนดระเบียบราชการบริหารนครบาลเพ็ชรบูรณ์และพระราชกำหนดจัดสร้างพุทธบุรีมณฑล นายควง อภัยวงศ์ จึงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นายควงเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2487 ไม่นานจากนั้นจึงได้เริ่มการ “ลบล้าง” รัฐนิยมหรือประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีสมัยจอมพล ป. ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องวัฒนธรรมออกไปแทบทั้งหมด กล่าวคือ
由于议会否决了他提出的关于迁都(至碧差汶)及佛都计划(在北标),銮披汶在1944年7月24日卸任总理。而后,宽·阿派旺于1944年8月1日开始接任泰国总理,此后不久便开始清理銮披汶在任时颁布的关于文化方面的政府公告及倡导的政府主义思想,包括:

  • ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2487 ให้ยกเลิกประกาศ เรื่องวางระเบียบคำแทนชื่อ และคำรับ “คำปติเสธ” ระบุแนวทางปฏิบัติว่า “ไห้ไช้ระเบียบปติบัติที่นิยมกันมาแต่เดิม”
  • 1944年9月5日颁布 公告,宣布废除关于人称代词和应答词、否定词的公告,宣布“恢复原先习惯的用法”。
  • ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2487 ให้ยกเลิกประกาศ “เรื่องการปรับปรุงตัวอักสรไทย และเรื่องการใช้เลขสากลเป็นเลขไทย”
  • 1944年11月2日颁布 公告,宣布 废除“使用泰语数字,不再使用国际数字”的公告。



(图为宽·阿派旺)

นอกจากนี้ยังมีประกาศของรัฐบาลควง อภัยวงศ์ อีกฉบับหนึ่ง ลงวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2488 ให้ยกเลิกประกาศของรัฐบาลจอมพล ป. เรื่องการใช้คำว่า “วันเกิด” ย้อนไปเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2484 รัฐบาลจอมพล ป. เล็งเห็นว่ามีการใช้คำในทำนองเดียวกับความหมายว่า “วันเกิด” ซ้ำกันมาก จึงออกประกาศให้ทุกคนใช้คำว่า “วันเกิด” เว้นแต่พระมหากษัตริย์และสมเด็จพระราชินีให้ใช้ว่า “วันเกิดใน……..” ประเด็นเรื่อง “วันเกิด” นี้เป็นเรื่องอ่อนไหวพอสมควร ต่อมา ในช่วงรัฐบาลควง อภัยวงศ์ ออกประกาศลงวันที่ 12 มกราคม พุทธศักราช 2488 เนื้อหาในประกาศระบุให้ยกเลิกประกาศเดิมของจอมพล ป. โดยให้เหตุผลว่า กรณีเปลี่ยนแปลงการใช้คำ “วันเกิด” นั้น “เป็นการไม่เหมาะสม และไม่ตามคตินิยม”
除此之外,宽·阿派旺政府在1945年1月12日颁布了公告,废除銮披汶政府关于“生日”一词的使用公告。1941年9月19日,銮披汶政府认为和“วันเกิด”一词用法相同 的词太多,因此颁布公告让民众统一使用“วันเกิด”一词,除了国王和王后的生日要用 “วันเกิดใน……..”,主要是这件事实在没什么好管的,所以后来宽·阿派旺废除了这项公告,理由是:改变“วันเกิด”一词的使用习惯是不合适的,不符合传统。

ประกาศของรัฐบาลควง อภัยวงศ์ ที่ยกเลิกประกาศของรัฐบาล จอมพล ป. ทั้ง 3 ฉบับ จึงเท่ากับ “ลบล้าง” การปรับปรุงภาษาไทยทั้งแง่การพูดและการเขียนไปจนแทบหมดสิ้น ภายหลังเมื่อ จอมพล ป. กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ใน พ.ศ. 2491 ก็ไม่ได้นำเรื่องการปรับปรุงภาษาไทยมาประกาศใช้อย่างที่เคยทำ จึงอาจตั้งข้อสังเกตได้ว่า การจัดการภาษาไทยในช่วงรัฐนิยมของจอมพล ป. เป็นเรื่องของวัฒนธรรมที่แฝงนัยยะและจุดประสงค์ทางการเมืองหรือไม่
宽·阿派旺政府颁布的废除銮披汶政府公告的3份文件就好比是清理掉了之前全部关于泰语口语和用法的新规定。后来,銮披汶在1948年重新担任泰国总理,却没有恢复第一任期时颁布的关于调整泰语使用的各项公告。这也让人怀疑,銮披汶在当时颁布的这些泰语政策是不是暗含了政治意图。



การปรับปรุงภาษาไทยในยุคจอมพล ป. ยังสะท้อนว่า “ภาษาไทย” คือภาษาที่ไม่มีวันตาย สามารถปรับเปลี่ยนได้แต่ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสถานการณ์และต้องใช้ระยะเวลาในการปรับเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม อิทธิพลการปรับปรุงภาษาไทยในยุคจอมพล ป. ก็คงส่งผลกระทบต่อสังคมอยู่ไม่น้อย เช่น คำตอบรับ “ครับ” “ค่ะ” ที่กลายเป็นแบบแผนคำสุภาพที่ใช้สนทนากันจนถึงทุกวันนี้
銮披汶政府时期对泰语的调整表明了泰语是一种永远不会消亡的语言,而语言往往顺势而变,也需要时间来见证改变。无论如何,銮披汶政府时期对泰语的调整对泰国社会仍然有很大的影响,例如“ครับ”“ค่ะ” 就变成了如今对话中表示礼貌的用语。


语言当中的很多现象都是有历史渊源的哦,小伙伴们学习语言的同时不要忘记去发掘它背后的文化知识哦!


声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自silpa-mag,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。