“你姓什么?”几乎成为所有泰漂们见面时互问的一句话,这是因为中国人的姓氏历史悠久,同时还能在一定程度上与宗亲和祖籍相联系。今天泰语君就带大伙儿一起来了解了解关于姓氏的那些事儿~


ทำความรู้จัก "แซ่จีน" คืออะไร? “姓氏是什么?”

แซ่จีน (姓) หรือ แซ่ของคนจีน หมายถึง นามสกุลจีนของผู้ที่มีเชื้อสายจีน ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนที่อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงชาวจีนโพ้นทะเล (Overseas Chinese) ที่โยกย้ายถิ่นฐาน ไปพำนักอาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยผู้ที่มีเชื้อสายจีนมักจะมีแซ่ของครอบครัวติดตัวไปด้วย แม้จะเปลี่ยนนามสกุลให้เป็นภาษาต่างๆ แล้วก็ตาม บางครั้งรุ่นลูกรุ่นหลานอาจไม่ได้ใช้นามสกุลเป็นแซ่จีน แต่เมื่อสืบสาวขึ้นไปยังบรรพบุรุษรุ่นก่อนหน้านี้ ก็มักจะปรากฏแซ่เดิมของตระกูลนั่นเอง
“中国人的姓”是指拥有中国血统的人的姓氏,这并不仅限于生活在中国大陆的人使用,还包括全球内移居国外的华侨。不论变成什么语言,有中国血统的人都有自己的家族姓氏。当然,有些子孙后代并没有延用中国姓氏,但追溯往上几辈人的历史就会发现自己这一脉最初的姓氏。




กำเนิด "แซ่ของคนจีน" มีที่มาจากไหน? 姓氏从何而来?

แม้จะไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่า "แซ่" ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เชื่อว่ามีการใช้สืบต่อกันมายาวนานเป็นเวลาหลายพันปี เนื่องจากอักษรที่จารึกบนกระดูกกระดองเต่า หรือที่เรียกว่า "เจี่ยกู่เหวิน" หลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญในสมัยราชวงศ์ซาง (ราว 1,600 - 1,046 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ก็มีชื่อของแซ่จีนปรากฏอยู่แล้ว รวมถึงการบันทึกชื่อของบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ ก็ระบุแซ่ไว้เช่นเดียวกัน
尽管没有明确的证据表明“姓氏”起源于何时,但不可否认的是它已经延续使用了好几千年。在出土的重要历史证据—商朝(约公元前1600年-1046年)刻在龟壳上的文字种(也叫做“甲骨文”),也发现了“姓氏”的存在,不乏发现重要的历史人物也在上面。



สายธารทางประวัติศาสตร์ของแผ่นดินจีน รวมถึงบริบทการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมืองในยุคต่างๆ ล้วนส่งผลต่อพัฒนาการของชื่อแซ่ กล่าวได้ว่า แซ่โบราณที่เคยปรากฏอยู่ในวรรณกรรมยุคเก่า อาจไม่มีใช้แล้วในปัจจุบัน แต่ระหว่างนั้น ก็ก่อกำเนิดแซ่ใหม่ๆ ขึ้นมากมายนับหมื่นแซ่ ซึ่งใช้สืบเนื่องต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
中国的历史潮流以及各个时代的社会、政治的变革背景都对“姓氏”产生了一定的影响。可以说,古代出现的一些中国姓氏可能现在已经没有使用了,但历史上也出现了新的数以万计的姓氏,直到现在仍在使用。



การตั้งแซ่ของคนจีน จึงมีที่มาจากหลายต้นกำเนิดด้วยกัน เช่น ตั้งตามชื่อราชวงศ์ ชื่อถิ่นที่อยู่ ชื่อแคว้น ชื่อบรรพบุรุษ ชื่ออาชีพ ฯลฯ โดยส่วนใหญ่แซ่จีนจะมีเพียง 1 พยางค์เท่านั้น หากเป็นแซ่จีน 2 พยางค์ มักจะเป็นแซ่ของชนกลุ่มน้อยต่างๆ ทั้งนี้ การสร้างระบบแซ่ขึ้นมาในวัฒนธรรมจีน ถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอัตลักษณ์เฉพาะกลุ่มของตนเอง
因此,中国的姓氏有很多种起源,比如:根据皇室的名字、地域名、住所名、祖先名、职业名等等,同时大部分的中国姓氏都只有一个音节(单姓),如果是两个音节(复姓),一般都是少数民族的姓,中华文化中的姓氏文化算的上是中国人特有的民族标志。

คนไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนจีนถิ่นแต้จิ๋ว ทำให้ชื่อแซ่จีนต่างๆ มักออกเสียงตามสำเนียงจีนแต้จิ๋ว ขณะเดียวกันหลายๆ คนก็เปลี่ยนมาใช้นามสกุลภาษาไทย แต่ก็ยังนำชื่อของแซ่ ตั้งไว้ต้นนามสกุล โดยจะยกตัวอย่างที่มาของ 5 แซ่จีนในไทย ที่คนไทยใช้กันเยอะที่สุด และเป็นที่คุ้นเคยกันดี ได้แก่
目前居住在泰国的华裔大部分都是潮州人,因此,各大姓氏都是按潮州话来发音的。同时,也有很多人改用泰国的姓,但仍然将自己的中国姓氏放在最前面,这里我们将介绍在泰国使用率最高的、被众人所熟知的五大中国姓氏。




1. แซ่ตั้ง 陈氏

ถือเป็นตระกูลใหญ่ มีผู้ใช้แซ่ตั้งในประเทศไทยเยอะมาก ประวัติความเป็นมาของแซ่ตั้ง แยกออกเป็นหลายสาย แต่สำหรับเรื่องเล่าที่รู้จักกันมากที่สุด เชื่อว่ามาจากสมัยที่กษัตริย์ของแคว้นโจวตะวันตก ออกตามหาทายาทสืบสกุลของราชวงศ์ซางที่ล่มสลายไปแล้ว จนกระทั่งตามหาพบ ซึ่งก็คือ "กุยหม่าน" จึงได้ยกลูกสาวของตนให้แต่งงานด้วย และให้ทั้งคู่ไปปกครองเมืองที่ชื่อว่า "เฉิน" ตั้งอยู่ในมณฑลเหอหนานในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของแซ่เฉินในเวลาต่อมา
陈氏算的是一个大姓,在泰国,姓陈的人是最多的。“陈氏”的起源分成了好几支,但最广为流传、被人们信服的说法是:“陈氏”起源于西周王时期,周王寻找到已经瓦解的商朝的后人“妫满”后,将自己的女儿许配给他,并让两人统治“陈”(现在的河南省)这个地方,这就是后来“陈氏”的来源。


(玄奘本姓陈,名祎、洛阳缑氏(今河南偃师缑氏镇)人,唐代高僧,我国汉传佛教四大佛经翻译家之一,中国汉传佛教唯识宗创始人。)


2. แซ่ลิ้ม 林氏

 ประวัติของตระกูลลิ้มเล่าสืบต่อกันมาว่า มีต้นตระกูลมาจาก "เกียงกง" ซึ่งเป็นบุตรชายของ "ปีกังกง" ผู้เป็นข้าราชการที่มีความซื่อสัตย์ แต่กลับถูกจักรพรรดิสั่งประหารชีวิต ภรรยาของปีกังกงจึงหลบหนีไปคลอดลูกในถ้ำ ซึ่งต่อมาก็คือบุตรชายที่ชื่อว่าเกียงกงนั่นเอง เมื่อสิ้นสุดรัชสมัยเดิม จักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ และได้พระราชทานแซ่สกุลให้ว่า "ลิ้ม"  ซึ่งเป็นสถานที่กำเนิดของเขา
"林氏"的血缘始祖相传源于“比干公”的儿子“坚公”。比干公是一位十分忠诚的朝臣,但却被皇帝赐死,于是她的妻子逃到洞里生下了一个孩子,这便是后来的“坚公”。当旧朝解体,新帝登位后便以他出生地的地名赐予他“林”姓。


(比干,沫邑(今河南省卫辉市)人,封于比邑(今山西省汾阳市),故称比干,也称王子比干,亘古忠臣,仁显忠烈公 )


3. แซ่หลี 李氏

คนแซ่หลี ไม่ได้มีเยอะแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นแซ่ที่คนจีนแผ่นดินใหญ่ใช้กันจำนวนมากอีกด้วย แซ่หลีมีประวัติหลายที่มา ต้นกำเนิดตระกูลนี้ เชื่อว่าหลักๆ มาจากลูกหลานของ "จวนซุนตี้" บ้างก็ว่ามาจาก "เล่าจื๋อหลี่เอ๋อ" เจ้าแห่งลัทธิเต๋าในสมัยราชวงศ์โจว ขณะที่อีกเรื่องเล่า ก็เชื่อว่าเป็นการนำตำแหน่งทางราชการที่เรียกว่า "ต้าหลี่" มาตั้งเป็นแซ่ต้นตระกูล
姓“李”的人不仅仅在泰国很多,同时在中国大陆也有非常多的人使用这一姓氏,“李氏”的来历也有多种说法。它的起源主要有两种说法,一种是源于“颛顼帝”的后裔,也有人说源自周朝道教创始人“老子李耳”,还有人认为“李氏”起源于官府职称“大理”。


(老子,姓李名耳,字聃,一字伯阳,或曰谥伯阳,春秋末期人,中国古代思想家、哲学家、文学家和史学家,道家学派创始人和主要代表人物,与庄子并称“老庄”。后被道教尊为始祖,称“太上老君”。在唐朝,被追认为李姓始祖。曾被列为世界文化名人,世界百位历史名人之一。)


4. แซ่อึ๊ง 黄氏
ส่วนใหญ่บรรพบุรุษของคนแซ่นี้ มีถิ่นกำเนิดในมณฑลกวางตุ้ง ถือเป็นตระกูลเก่าแก่อีกตระกูลหนึ่งของจีน คำคำนี้ออกเสียงในภาษาจีนกลางว่า "หวง" มีความหมายว่า "สีเหลือง" ประวัติที่มาต้องย้อนกลับไปถึงสมัยโบราณ ที่เชื่อว่ามีเผ่าจำนวน 9 เผ่า ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด โดยหนึ่งในนั้นคือ เผ่าหวง เป็นเผ่าที่บูชานกสีเหลืองขนงดงาม อาศัยอยู่แถบมองโกเลียใน ก่อนจะอพยพลงใต้มาเรื่อยๆ
大部分姓“黄”的人的祖先都来自广东省,算得上是中国另外一个历史悠久的姓氏,这个姓氏在现代汉语中读作“huáng”,意思是“黄色”,它的来历要追溯到远古时期,当时有九大最繁荣的部落,“黄氏部落”就是其中的一支,他们崇拜一种拥有漂亮的黄色羽毛的鸟,在南迁之前,他们都居住在内蒙古一带。


(黄飞鸿,原名黄锡祥,字达云,号飞鸿,幼名飞熊。生于佛山市南海县,原籍南海县西樵岭西禄舟村。清末民国武术家、中医外科名医、舞狮名家。)


5. แซ่โง้ว 吴氏

โง้ว ออกเสียงในภาษาจีนกลางว่า "อู๋" เป็นตระกูลที่กระจายกว้างขวางที่สุดอีกแซ่หนึ่งในไทย มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน เชื่อว่าต้นกำเนิดมาจาก "อู๋ฉวน" ข้าราชการในสมัยของพระเจ้าจวนซู บ้างก็ว่ามาจาก "อู๋เฮ่อ" ข้าราชการสมัยราชวงศ์เซี่ย ซึ่งล้วนมีเรื่องเล่าที่แตกต่างกันออกไป แต่จุดร่วมมีลักษณะใกล้เคียงกันคือ ผู้ให้กำเนิดต้นตระกูล เป็นข้าราชบริพารของจักรพรรดิ
“吴”现代汉语读作“wú”,是另一个在泰国广为流传的一大姓,其历史悠久。大家认为“吴氏”的先祖是颛顼帝时期的大臣“吴权”,有些人也说是夏朝时期的朝臣“吴贺”。虽然说法不一,但都有相似之处,那就是这位始祖是皇帝的侍从。


(吴起卫国左氏(今山东省曹县)人。战国初期军事家、政治家、改革家,兵家代表人物。著作有《吴子兵法》,传于世,与兵圣孙武并称“孙吴”。)


中国姓氏作为文化遗产的一部分,不仅能反映我们的祖籍所在地,同时还能让我们了解自己华夏子孙的发源。无论走到哪里,滚烫山河间不忘初心,牢记自己是“龙的传人”。


声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自thairath,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。