充满仪式感的泰式浪漫婚礼,让人赏心悦目!可最近在泰国竟发生一起新郎逃婚事件,女方报警只为了让男的来支付举办婚礼产生的费用!男方请求解释,并希望得到女方的原谅!爱情诚可贵,贵在真心,婚礼不在于形式,在于用心!骗财骗色的感情在佛教国家也不例外呀!

เจ้าบ่าว เผยปม เทงานแต่ง ทิ้งเจ้าสาวเป็นหนี้3แสน ยืนยันยังรักฝ่ายหญิง

新郎逃婚,让新娘背负30万泰铢的婚礼酒席钱,声称还爱着对方!

เปิดใจ เจ้าบ่าว อ้างเป็นทหาร เทงานแต่ง เผย เหตุผลทิ้ง เจ้าสาว รับแขกเดียวดาย เป็นหนี้จัดงานเกือบ 3 แสนบาท ยืนยันยังรักอยู่ เตรียมเคลียร์ใจ 11 พ.ค.นี้

自称军人的新郎公开表示,他在婚礼上逃婚,让新娘一个人接待客人并背负30万泰铢的酒席钱,声称还爱着对方,将于5月11日见面澄清事情真相!

จากกรณีได้รับร้องทุกข์จากน.ส.น้ำทิพย์ อายุ 40 ปี เป็นสาวโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งอ้างเป็นทหารชื่อ จ.ส.อ.เอก หรือฉาย ซึ่งเป็นผู้ติดตามนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ได้ใช้กลอุบายหลอกน.ส.น้ำทิพย์ หลังจากคบหากันมานานกว่า 5 เดือน จนกระทั่งบิดามารดาฝ่ายหญิงตายใจว่าเป็นคนดี และจะจัดพิธีมงคลสมรสกันในวันที่ 1 พ.ค.65

从接到投诉的案例来看,40岁的Namthip女士是巴真府卡宾布里工业园的一名工厂女工。 有一位自称是军人的男子,名叫erk或Chai一等军士长,同时也是当地政治家的属下。该男子以爱情的名义欺骗了Namthip 女士,经过5个多月的约会,在女方父母认定他是个好人后,并决定于2022年5月1日为他们举办婚礼。

แต่พอถึงวันพิธีแต่งงาน เจ้าสาวและญาติพี่น้องได้จัดเตรียมงานให้สมเกรียติ มีทั้งพิธีทางศาสนา อาหารโต๊ะจีน พร้อมเครื่องดื่ม 50 โต๊ะ สำหรับเลี้ยงแขก พอถึงวัน เวลา แขกเริ่มเข้ามาภายในงาน ซึ่งเจ้าสาวและญาติๆ ฝืนยิ้มต้อนรับแขก พอถึงเวลาฤกษ์ขันหมาก จะเข้าพิธีรอเจ้าบ่าว แต่เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนเลยฤกษ์ก็ไม่เห็นว่าที่เจ้าบ่าวจะมาเข้าพิธี ติดต่อทางโทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย จึงรู้ว่าถูกหลอกและเสียใจอย่างมาก แต่ก็ต้องทนยืนรับแขกที่มาร่วมพิธีเพียงคนเดียว โดยไร้เงาว่าที่เจ้าบ่าวจนเสร็จงาน ทั้งทุกข์ระทมใจเป็นอย่างมาก แม้งานจะจัดเสร็จไปโดยไร้เจ้าบ่าว แต่ที่สำคัญคือครอบครัวเป็นหนี้ค่าอาหารโต๊ะจีน เครื่องใช้ในงานแต่งต่างๆ เกือบ 300,000 บาท แม้เวลาจะล่วงเลยมา 2-3 วันแล้วก็ยังไร้เงาเจ้าบ่าวที่อ้างตัวว่าเป็นทหารมารับผิดชอบ

在婚礼举行当天,新娘和亲戚们安排了隆重的婚礼现场,包括宗教仪式和含有饮料的中式餐桌50桌以宴请宾客;但婚礼当天,宾客陆续开始到达婚礼现场,新娘和亲戚们只能勉强挤出微笑迎接客人,到了婚礼吉时马上要举行仪式了,新郎还没出现,随着时间的流逝,婚礼吉时也过了,也未见新郎,打电话去也没人接听,此时才知道自己被骗了,很伤心;但新娘还是强忍着难过一个人继续接待宾客,直到婚礼结束也没见新郎的人影。婚礼在没有新郎的情况下举办完了,让新娘很痛苦和心碎,但更重要的是此次婚礼让家庭欠下接近30万泰铢的债务,即使婚礼已经结束两三天了,自称是军人的新郎还是没有出现来负责这件事。

วันที่ 5 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพัก หมู่ที่ 6 บ้านสระจาน ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พบกับน.ส.น้ำทิพย์ ยังอยู่ในอาการเหม่อลอยและซึมเศร้า ทุกครั้งเมื่อกลับจากงานที่ทำอยู่บ้าน ญาติเองก็ยังคงให้กำลังใจตลอด

2022年5月5日,记者前往巴真府楠迪县楠迪镇班萨占6号住宅区,会见了Namthip女士;她仍然处于失落和沮丧的状态;每次下班回来待在家里的时候,亲戚们一直都在鼓励她。

ผู้สื่อข่าวยังพบว่าครอบครัวยังคงเก็บหลักฐานไว้ โดยเฉพาะดอกไม้ที่ใช้ประดับในพิธีรดน้ำสังข์ ป้ายชื่อ เจ้าบ่าว เจ้าสาว ไว้ให้ดูต่างหน้า นอกจากนั้นบริเวณลานหน้าบ้านที่จัดงานสำหรับโต๊ะจีน เพื่อรองรับแขกที่มาร่วมงานยังมีร่องรอย ให้เห็นว่ามีการจัดเลี้ยงแขกจริง หลังจากนั้นน.ส.น้ำทิพย์ ยังนำภาพถ่ายที่ตนต้องจัดงานพิธีสมรส โดยไม่มีเจ้าบ่าวมาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกับบิลค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมๆแล้วเกือบ 300,000 บาท ซึ่งตนและครอบครัวจะต้องหาเงินมาใช้หนี้

记者还发现,新娘家人还保留着证据;尤其是用来装饰滴水礼现场的鲜花和新郎和新娘的名字背景墙;除此之外,房子前面的庭院里曾安排了迎接宾客的中式餐桌,现在仍有迹可循;这些都证明了真的有宴请宾客。之后,Namthip 女士还给记者看了婚礼中没有新郎参加的照片,还有举办婚礼花的各种费用的账单,总费用将近30万泰铢,她和她的家人将必须去找钱来偿还债务。

น.ส.น้ำทิพย์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนกับแฟนหนุ่มที่อ้างตัวเป็นจ่าสิบเอกคบหาดูใจตั้งแต่เดือนธ.ค.64 โดยตลอดเวลาที่คบกัน เขาได้บอกเป็นทหารยศจ่าสิบเอก และยังอ้างว่าเป็นบอดี้การ์ดให้นักการเมืองท้องถิ่นในต.นาดี ด้วยการแต่งกายและการพูดจา จึงเชื่อแฟนหนุ่มว่าเป็นทหารจริง และเป็นบอดี้การ์ดของนักการเมืองท้องถิ่น จึงไม่ได้สอบถามเพิ่มเติม ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา ชายคนดังกล่าวเป็นคนที่นิสัยดีเสมอต้นเสมอปลายเข้ากับคนที่บ้านพ่อแม่พี่น้องได้ดี โดยจะคอยทำอาหารกับข้าวภายในบ้านและดูแลทุกอย่างแทบจะทุกวัน

Namthip 女士用颤抖的声音说她和她那自称是一等军士长的男友,从 21年12月开始约会;交往期间,他说他是一名一等军士长级别的军人,同时还是南迪镇当地政治家的保镖;通过穿衣和言行举止,她相信自己的男朋友是真正的军人并且是当地政治家的保镖,也就没有进一步的询问。在一起的时候,他始终是一个性格很好的人,与父母和兄弟姐妹相处得很好,他几乎每天都会在家里做饭并打理好一切。

น.ส.น้ำทิพย์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ทิ้งงานแต่งนั้น ฝ่ายชายมาพูดคุย บอกว่าอยากจะขอแต่งงาน แต่เนื่องจากตนเคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงบอกกับฝ่ายชายว่าไม่ต้องจัดงานใหญ่ก็ได้ แต่ฝ่ายชายบอกว่าอยากได้งานใหญ่นิดนึง เพราะเป็นทหาร และยังเป็นบอดี้การ์ดของนักการเมืองท้องถิ่น บุคคลที่รู้จักใหญ่โตอีกหลายคน จึงตามใจแฟนโดยไม่ได้ห้ามอะไร หลังจากนั้นแฟนได้คุยกับพ่อแม่ โดยพ่อแม่เรียกค่าสินสอดเป็นเงิน 200,000 บาท และทองคำหนัก 3 บาท เบื้องต้นแฟนรับปากว่าไหวและจะหาเงินมาทันในงานวันแต่งแน่นอน

Namthip女士说,在发生逃婚事件前,男的提到要结婚,因为她本人已经结过一次婚,所以告诉男方婚礼不用举办得太大,但男方说想把婚礼举办得大一点,因为自己是军人还是当地政治家的保镖,认识很多大人物,所以在婚礼上也没有在多说什么。从那以后,男方到女方家提亲,女方家提了要20万泰铢的彩礼和3泰铢的黄金,刚开始男方答应了并保证会在婚礼前凑到钱。

“เดิมทีกำหนดงานไว้วันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ถ้ว่าเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด-19 จึงไม่สามารถจัดงานได้ เลยมาเป็นวันที่ 1 พ.ค.65 โดยที่ฝ่ายชายเป็นคนดำเนินการเรื่อง การจัดดอกไม้จัดซุ้มอาหารดนตรีเครื่องดื่มด้วยตนเอง”

“最初,婚礼原定于 3 月 25 日举行,但是由于新冠疫情大肆传播不能举行活动,因此推迟到5月1日,这是男方负责的,他还负责婚礼的鲜花布置、餐桌、音乐和饮料”。

น.ส.น้ำทิพย์ กล่าวว่า พอถึงวันแต่งที่ 1 พ.ค.65 เวลาประมาณ 02.00 น. ฝ่ายชายได้เก็บกระเป๋า แล้วบอกว่าจะไปนอนกับแม่และญาติของตน ซึ่งได้มาจองรีสอร์ตไว้ใกล้เคียงกับบ้านของตน ส่วนตนนั้นต้องแต่งหน้าต่อจึง มอบเงินให้ฝ่ายชาย 20,000 บาท เพื่อนำเป็นค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ ในระหว่างงาน หลังจากนั้นตนก็แต่งตัวแต่งหน้าจนถึงเวลาประมาณ 06.00 น. กระทั่งหลานชายมาบอกว่าน้ำแข็งในงานมาลงแล้วจะต้องจ่ายเงินสดเขา จึงพยายามโทรหาแฟนว่าให้นำเงินมาจ่าย และมาแต่งหน้าแต่งตัว เพราะว่าอีกประมาณ 1 ชั่วโมง จะมีพิธีสงฆ์ ฝ่ายชายจึงรับปากว่ากำลังมา

Namthip女士说,到22年5月1日凌晨 2:00 左右举行婚礼时,男人收拾好行李说是要回去父母和亲戚那边睡,他们在家的附近订好了酒店。而新娘自己需要继续化妆,就给了男方2万泰铢,让他去支付婚礼过程中的开销;从那以后新娘就一直化妆到早上6:00,直到侄儿子过来说,婚礼现场要用的冰块已经到了,需要支付给人家现金,于是打电话给男方让他过来付钱并且过来化妆打扮,因为再过一个小时就要到婚礼诵经祈福环节了,男的说正在赶过来。

เมื่อถึงเวลาประมาณ 07.00 น ต้องเข้าสู่พิธีสงฆ์ ตนจึงได้โทรหาฝ่ายชายอีกรอบ แต่ได้คำตอบมาว่าตอนนี้มีปากเสียงเรื่องเงินสินสอดกับแม่ตนอยู่ ขอเวลาประมาณ 07.00 น เจ้าบ่าวจะรีบเข้ามาให้ทันพิธี หลังจากนั้นก็โทรติดต่อแฟนหนุ่มไม่ได้อีกเลย จึงคิดได้ทันทีว่าฝ่ายชายหนีการแต่งงานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นรู้สึกช็อกและเสียใจมาก แต่เนื่องด้วยทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้ว จึงแข็งใจออกมาทำพิธี โดยการตักบาตรเพียงคนเดียว ทำพิธีทางสงฆ์เพียงคนเดียว และต้อนรับแขกเพื่อให้งานผ่านพ้นไปด้วยดี หลังจากเสร็จพิธีก็พยายามติดต่อไปยังแฟนของตน ก็ยังติดต่อไม่ได้ จึงได้ปรึกษากับครอบครัวและนำหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความร้องทุกข์และลงบันทึกประจำวันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาดี ให้ตามหาฝ่ายชายให้มารับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในงานทั้งหมดด้วย

早上 7:00 左右,必须举行诵经仪式了,于是又给男方打了电话,得到的回答是现在正因为彩礼的事和母亲发生争执;到7:00了,新郎必须在现场了,再打去电话已经无人接听,所以她立刻想到,这个男人已经逃婚了。那个时候新娘很震惊也很伤心,但既然一切都已经准备好了,于是,她下定决心要出去举行仪式,一个人给僧侣们布施,一个人接受诵经祝福,然后去迎接宾客,让婚礼顺利结束。婚礼结束后她努力试图联系上男方,但始终联系不上。和家人商讨以后,决定带上所有证据去报案,并在南迪警察局录了口供,希望找到该男子来负责举办婚礼产生的所有费用。

婚礼是宣告爱情的形式,但是因为彩礼等原因让爱情面临结束甚至遭遇欺骗的情况,却是我们不愿看到的!40岁的Namthip女士再次相信爱情却再次受伤害,希望男方能出面解决所有的事情。期望每一个被爱的女孩大家都要学会好好爱自己。

声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。