人生中我们最求财富,处理各种关系,但是人生中最重要的是这些吗?这篇《员外与他的四个妻子》故事讲告诉我们答案……其实在我们忙碌的生活中,忽略了我们最重要的东西,那就是我们的心灵。

ภรรยาทั้งสี่

ในสมัยพุทธกาล พ่อค้ามหาเศรษฐีคนหนึ่งมีภรรยาสี่คน เขาหลงรักภรรยาคนที่สี่มากที่สุด จึงมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้เธอ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแพรพรรณอันงดงามหรืออาหารโอชะ

ขณะเดียวกัน เขาก็รักภรรยาคนที่สาม ภาคภูมิใจในตัวเธอมาก และมักจะนำเธอไปอวดแก่เพื่อนฝูงอยู่เนืองๆ แต่พ่อค้าก็อดกลัวไม่ได้ว่าวันหนึ่งข้างหน้าสาวเจ้าอาจจะหนีตามชายอื่นไป

เขามีความรักให้ภรรยาคนที่สองด้วยเช่นกัน เธอผู้นี้เป็นคนเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีน้ำอดน้ำทน และเป็นภรรยาที่พ่อค้าสามารถไว้วางใจได้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับอุปสรรค ปัญหาใดก็ตาม พ่อค้าก็จะหันหน้าไปปรึกษาภรรยาผู้นี้ ซึ่งเธอก็ช่วยเหลือเขา ด้วยดีมาโดยตลอด

ฝ่ายภรรยาคนแรกนั้นเป็นคู่ชีวิตที่มั่นคงต่อสามี ทั้งยังได้อุทิศตัวสอดส่องดูแลธุรกิจ ตลอดจนเรื่องภายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี แต่อนิจจาพ่อค้ากลับไม่ได้รักตอบรวมทั้งไม่ค่อยจะไยดีเธอสักเท่าไร

วันหนึ่ง เมื่อพ่อค้าล้มป่วยลง รู้ว่าตนเองจะต้องจบชีวิตลงในไม่ช้า เขาก็นึกถึง ชีวิตอันแสนสุขที่ได้ผ่านมาและอดรำพึงรำพันกับตัวเองไม่ได้ว่า

“เราเองมีภรรยาถึงสี่คนที่รักเรา และเราก็หลงใหลพวกหล่อนมาก แต่เมื่อถึงคราวที่จะต้องตายลง เราก็ต้องโดดเดี่ยวเอกา”

คิดได้ดังนั้น เขาจึงตามภรรยาคนที่สี่มา เพื่อสอบถามว่า

“ข้ารักเจ้ามากที่สุด และที่ผ่านมาข้าก็ได้มอบผ้าผ่อนแพรพรรณอันงดงามให้ แก่เจ้าดูแลเจ้าเป็นอย่างดี...แต่ตอนนี้ข้ากำลังจะตาย เจ้าคิดจะตาย ตามข้าหรือเปล่า”

“ไม่มีทาง”

หล่อนตอบ แล้วก็จากไปโดยไม่กล่าวอะไรอีก

อนิจจา คำตอบนั้น ช่างเปรียบเหมือนคมมีดกรีดเฉือนหัวใจพ่อค้าเลยทีเดียว แล้วพ่อค้าเจ้าทุกข์ก็ถามคำเดียวกันนี้กับภรรยาคนที่สาม คำตอบนี้คือ “ไม่!”

ถึงตอนนี้พ่อค้ากลับรู้สึกเหน็บหนาวร้าวลึกในหัวอก เขาพูดกับภรรยาคนที่สองว่า “ข้ามักจะหันหน้าไปหาเจ้าเสมอ เมื่อมีเรื่องทุกข์ร้อน และเจ้าก็สามารถช่วยข้าได้ทุกคราว ถึงตอนนี้ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าอีกครั้ง เมื่อข้าตายลงเจ้าจะยอมตายตามข้าหรือไม่”

“ขอโทษที่ครั้งนี้ข้าไม่อาจช่วยท่านได้ อย่างมากที่สุดข้าก็จะอยู่จัดการเรื่อง ฌาปนกิจให้ท่านเท่านั้น”

คำตอบนั้นเหมือนสายฟ้าฟาดทำให้พ่อค้าถึงกับตะลึงงัน

“ข้าจะอยู่กับท่านเสมอ จะติดตามท่านไปไม่ว่าจะเป็นที่ใด” นี่เป็นคำตอบของภรรยาคนที่หนึ่ง

ผู้ที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าเขา บัดนี้หล่อนดูซูบลงมาก เนื่องมาจากไม่ค่อยได้รับอาหารที่มีคุณค่าพ่อค้าตอบไปด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ่งว่า “ข้าควรจะดูแลเจ้าให้ดีกว่านี้”

ฉะนี้ พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า

“ภรรยาคนที่สี่เปรียบเสมือนร่างกายของเราไม่ว่าเราจะพยายามดูแลให้ดีสักเท่าไรก็ตาม มันก็ต้องจากเราไป

“ขณะที่ภรรยาคนที่สามเปรียบได้ดั่งอาชีพการงาน สถานะทางสังคม และความร่ำรวย เมื่อเราตาย ทรัพย์สินก็ย่อมจะตกไปอยู่กับคนอื่น คิดหรือว่าคนอื่น ๆ เขาจะไม่มาเอาฐานะตำแหน่งของเราไป

“ภรรยาคนที่สองก็คือครอบครัวและเพื่อนๆของเรา แม้เราจะได้อยู่ด้วยกันยามมีชีวิต แต่ถึงที่สุดแล้วเขาจะอยู่กับเราได้อย่างมากที่สุดก็ในงานฌาปนกิจ

“ส่วนภรรยาคนแรกนั้นก็คือจิตวิญญาณของเราที่มักจะถูกละเลยลืมเลือน เพราะเรามัวแต่ให้ความสนใจกับวัตถุและความทุกข์ทางกามารมณ์ ขณะที่จิตวิญญาณนั้นเป็นสิ่งเดียวที่จะติดตามเราไปทุกที่

员外与他的四个妻子

从前,有一个有钱的员外娶了四个妻子。 第四个妻子最得员外的疼爱,他不管去哪都带着她。而她每天沐浴更衣、饮食起居,都要丈夫亲手照顾,她想吃什么、喜欢什么衣服,员外都肯买给她,对她真是百般呵护,非常宠爱。

第三个妻子是众多人追求的对象,员外可是很辛苦的花了好大的力气,才打败众人得到她的。所以,员外每天都要去关心她,常常在她身边甜言蜜语,又造了漂亮的房子给她住。

第二个妻子和员外可说是最有话聊的了,每当员外有什么心事或困扰,他总是来找第二位妻子为他分忧解劳,互相慰,只要和她在一块儿就觉得很满足。

至于员外的第一个妻子,员外几乎忘了她似的,根本很少去看她。可是家中一切繁重的工作都由她处理,她身负各种责任烦恼,却得不到员外的注意和重视。

一天,员外必须离开故乡,到遥远的地方去。他对第四个妻子说:“我现在有急事非离开不可,妳跟我一块儿走?”

第四个妻子回答:“我可不愿跟你去。”员外惊异万分,不解地问:“我最疼爱妳,对妳言听计从,我们也没有分开过,怎么现在不愿陪我一块儿去呢?”“不论你怎么说,我都不可能陪你去的啦!”第四个妻子坚决地说。

员外恨她的无情,就把第三个妻子叫来问到:“那妳能陪我一块儿去吗?”

第三个妻子回答:“连妳最心爱的第四个妻子都不情愿陪你去,我为什么要陪你去?”

员外只好把第二个妻子叫过来说:“妳总愿意陪我去吧?”

第二个妻子说“嗯,你要离开我也很难过,但我也只能陪你到城外,之后的路你就自己走吧!”

员外没想到第二个妻子也不愿陪他去,这才想起第一个妻子,把她叫来问一样的话。

第一个妻子回答:“不论你去哪里,不论苦乐或生死,我都不会离开你的身边。你去多远我都陪你去。”

这时员外才知道,真正可以和他永不分离的只有第一个妻子啊! 员外要去的地方是死亡的世界。

佛主教导说:

第四个妻子,是人的身体。人对自己的身体倍加珍惜,为满足这个身体的物质欲望所做的一切,不亚于员外体贴第四个妻子的情形;但死时你为之不惜一切的身体,却不会随着你。

第三个妻子,是人间的财富。不论你多么辛苦追求来的财富、储存起来的财宝,死时都不能带走一分一毫;死后会带走的反而是为追求财富造下的业力。

第二个妻子,是亲朋好友。人活在世上,彼此关爱是应该的,但是人往往为了人情而忘了做人的目的。亲朋好友在人死后,会伤心一段时间,但是百年之后却谁也不认识谁。

第一个妻子,则是人的心灵。它和我们形影相随,生死不离,它和我们的关系如此密切,但我们也最容易忽略了它,反而全神贯注于物质和欲望。其实这才是永生永世与我们同在的。

 点击查看更多此系列文章>>