น้าฎารวบผมที่เคยปล่อยยาวให้เป็นมวยเล็กๆ ที่ท้ายทอย กำไลครึ่งแขนคุ้มตาหายไป เหลือเพียงต่างหูมุกเม็ดจ้อย น้าฎาเป็นคนแต่งตัวแบบที่ดูเพลิน เอาผ้ามาพ้นมาผูกตรงไหน ใส่หรือประดับอะไร ก็ดูดีมีสีสันชวนมองบัดนี้ความสดชื่นบนเรือนกายหายไปจนหมดสิ้น ชุดสีดำทำให้ร้างของน้าฎาบางลงผิดตาและเซียวซีด กะทิเห็นสายตาของน้ากันต์มองตามน้าฎาอย่างเป็นห้วง ขณะที่น้าฎารับแขกผู้ใหญ่ ดูแลการบริการเครื่องดื่มของว่าง เครื่องไทยธรรมถวายพระ และอื่น

น้ากันต์อยู่กะทิตลอด ราวกับเงาตามตัวก็ไม่ปานทั้งสองคนไม่มีหน้าที่ในงาน จึงมักจูงมือกันมือกันเดินเลี่ยงออกมานั่งเล่นบนม้าหินใต้ซุ้มเฟื่องฟ้า ฟังเสียงดนตรีธรรมชาติที่ดูเหมือนจะมีจักจั่นเป็นต้นเสียง จะว่าฟังหนวกหูก็ม่เชิงเพราะระดับเสียงไร้กังวานที่ดังต่อเนื่องเข้ากันดีกับบรรยากาศรอบตัว นี่ถ้าลำพังกะทิคนเดียว ย่อมไม่มีวันออกมานั่งมืดๆ ตรงนี้แน่ๆ

中文详解:

帕舅舅把平时凌乱的头发束成一个小发髻,扎在后脑,手上一直戴着的银镯也消失了,只剩下耳朵上还戴着的小小的耳环。帕舅舅算是个会打扮的人,拿一块简单的布用来怎么装饰都可以显得很好看。可这次,一切鲜艳的色彩都消失不见了,黑色的衣服让他显得异常单薄、苍白。当帕舅舅正忙于接待年长的客人,安排水、食物和僧人的斋食等其他一些琐碎的事情时,佳媞见绀舅舅看帕舅舅的眼神都充满了担忧。 

绀舅舅一直和佳媞在一起,两人形影不离,两个人在葬礼上都没有被安排什么工作。所以两个人牵着手,坐在一丛九重葛下的石凳子上,聆听一场由蝉领唱的自然音乐会。如果说蝉的叫声聒噪得震耳欲聋,那也未必。因为它们的声音听上去嘹亮,富有层次感,很能配合周围的气氛。如果是佳媞一个人,是绝对不可能在这么晚的时候还独自一人坐在这里的。

 点击查看更多此系列文章>>