"เจมส์-จิ" มั่นใจ ดังแค่ไหนก็เหมือนเดิม เพราะถูกสอนเสมอว่า"อย่าหลง" เปิดใจทุกวันนี้มีชีวิตแค่ในมหาวิทยาลัยกับกองถ่าย
James确信自己不管多么红还会跟以前一样,因为他一直都被教导“别迷恋(名气)”,每天都只能生活在学校和摄像机里。

เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ถึงตอนนี้แม้จะมีชื่อเสียงมากขึ้น แต่ยืนยันได้ว่า ยังปฏิบัติตัวเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย ด้วยผู้ใหญ่หลายๆ คนรวมถึงปิ๊ก-ชาญฉลาด ทวีทรัพย์ ผู้จัดการส่วนตัวสอนอยู่เสมอว่า อย่าหลงกับชื่อเสียงและสิ่งต่างๆ ที่เข้ามา ให้ยึดติดและคิดแต่การรับผิดชอบงานให้ดีที่สุดเท่านั้น
James在采访的时候表示:尽管现在很出名,但仍然坚持自己跟以前一样,并没有改变很多。因为很多的前辈和经纪人都教育他说:别被名气和周围新鲜事物冲昏了头,更多地思考和反思怎么才能做好这份工作。

ทั้งนี้ ในส่วนของงานจิรายุกล่าวว่า นอกจากละคร "รักสุดฤทธิ์" ที่กำลังถ่ายทำแล้ว ยังเพิ่งบวงสรวงภาพยนตร์เรื่อง "ไทม์ไลน์จดหมายความทรงจำ" ซึ่งเป็นภาคต่อของ "เดอะ เลตเตอร์...จดหมายรัก" ไป โดยตนรับบทเป็นเด็กที่มีปมในใจเรื่องพ่อ รวมทั้งเป็นคนที่ไม่มีจุดมุ่งหมายในอนาคต ซึ่งค่อนข้างยาก อีกทั้งยังได้ยินมาว่าเรื่อง "เดอะ เลตเตอร์ฯ" นั้นเป็นงานที่คนชอบมาก จึงรู้สึกเกร็ง กลัวจะทำออกมาได้ไม่ดี อย่างไรก็ตามได้พยายามศึกษาบทและปรึกษานนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับตลอด
“除了电视剧《Rak Sood Rit》正在拍摄以外,还增加一部电影《回忆信》,也就是《情书》的第二部,我自己在里面饰演的是一位和父亲有心结、对未来的生活完全没有规划的孩子,所以说这个角色还是蛮难的。而且我还听说《情书》是大家都非常喜欢的电影,所以我才感觉到压力,怕自己演得不好,不管怎么说,我都会努力学习剧本和多向导演请教。”James表示。

"ผมว่ามันเป็นบทที่ดีมาก ต้องแสดงหลายบุคลิก อีกทั้งเรื่องไม่ได้ให้ความสัมพันธ์แต่กับหนุ่มสาว แต่มีความสัมพันธ์กับเเม่เข้ามาเกี่ยวข้อง ขนาดผมอ่านบทเอง เเล้วยังเเบบเออ...อยากเห็นแล้วละว่าจะออกมาเป็นยังไง" จิรายุกล่าว
“我觉得这是不错的角色,要表现出很多的性格特征,不仅仅只是爱情,还有亲情戏码。 就连我在读剧本的时候,非常地期待这部电影出来之后会是什么样子的。”

จิรายุกล่าวอีกว่า หลังจากเข้าวงการ ชีวิตตนวนเวียนอยู่ไม่กี่แห่ง คือบ้าน, มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งเป็นสถานศึกษา กับกองถ่าย เพราะไม่มีเวลาไปไหน
James还说,自从进了娱乐圈,他的生活就只有家、学校和摄影棚,因为没有时间去别的地方了。

"ส่วนกับเพื่อนๆ ก็คุยกัน ซึ่งมีบ้างบางทีเพื่อนมาบอกว่า ชีวิตลำบากมาก เพราะมีคนมาบอกอยากรู้จักกับเจมส์ ผมก็โดนเพื่อนด่าไปก็มี" จิรายุกล่าวพร้อมหัวเราะ
“我还会和朋友聊天,但也有一些朋友向我诉苦说:因为有人想要(通过朋友)认识James,生活就被打乱了。我也有被朋友骂时候。”James一边说一边大笑。

本双语文章的中文翻译系沪江泰语原创内容,转载请注明出处。中文翻译仅代表译者个人观点,仅供参考。如有不妥之处,欢迎指正。