新闻大意参考:

      科学家们正在尝试一种测量食物中卡路里数的技术。他们通过用一张照片测量食物分量的大小来计算一顿饭中各成分所含热量的大小。目前在测量固态食物的时候,据说误差范围也仅有3.7%而已。

แม้ทุกวันนี้จะมีหลายวิธีที่สามารถหาปริมาณแคลอรี่ของอาหารแต่ละอย่างได้ไม่ยาก เช่น ดูที่ภาชนะ หรือหาทางอินเทอร์เนต แต่ในกรณีที่มีจานอาหารมาวางตรงหน้าแล้วต้องการทราบปริมาณแคลอรี่แบบทันทีทันใจ ก็อาจเป็นเรื่องยากสักหน่อย

แต่เมื่อเร็วๆนี้ รายงานของนักวิจัยที่ University of Pittsburgh พบว่า เทคโนโลยีการถ่ายภาพแบบใหม่ล่าสุดสามารถคำนวณแคลอรี่ของอาหารที่อยู่ในรูปภาพได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะอาหารแบบที่เป็นก้อน เช่น แฮมเบอร์เกอร์ หรือเนื้อสเต็ก ซึ่งมีค่าความคลาดเคลื่อนเพียง 3.7%เทียบกับความคลาดเคลื่อนจากการประเมินด้วยสายตาซึ่งมีอัตราส่วนสูงถึง 20%

รายงานอธิบายถึงกระบวนการดังกล่าว โดยเริ่มต้นด้วยการถ่ายรูปอาหารแล้วใช้ซอฟแวร์แยกส่วนที่เป็นภาชนะออกจากส่วนที่เป็นอาหาร จากนั้นวัดรูปร่าง ส่วนเว้าส่วนโค้ง และจำแนกสีสันของอาหาร เพื่อคาดเดาส่วนประกอบ แล้วใช้สูตรทางคณิตศาสตร์คำนวณเป็นตัวเลขแคลอรี่ โดยเทียบเคียงกับฐานข้อมูลทางอินเทอร์เนต เช่น ถ้ามีรูปร่างสามเหลี่ยมก็อาจเป็นพิซซ่าหรือพาย

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของเทคโนโลยีที่ว่านี้คือ ยังไม่สามารถระบุแคลอรี่ของอาหารชนิดเหลวได้ เพราะจำแนกประเภทของอาหารได้ยาก อีกอย่างหนึ่งคือ อาหารประเภทเดียวกันแต่มีการใช้ส่วนประกอบหรือลักษณะการปรุงอาหารที่ต่างกันไปแต่ละท้องถิ่น ก็จะทำให้ระบุส่วนประกอบของอาหารชนิดนั้นอย่างเฉพาะเจาะจงได้ยากเช่นกัน

แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเทคโนโลยีนี้มีข้อดีไม่น้อยเมื่อเทียบกับการใช้สายตาคาดเดา และเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือโรคหัวใจ รวมทั้งผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักซึ่งต้องเฝ้าระวังอาหารทุกมื้อที่รับประทาน

รายงานชิ้นนี้ตีพิมพ์อยู่ในวารสาร Measurement Science and Technology