成语“画龙点睛”的故事相信大家都耳熟能详,那“画龙点睛”的泰语该怎么说呢?让我们一起来看看泰语版的“画龙点睛”故事,一起在成语典故中学习泰语吧~

วาดมังกรแต้มนัยน์ตา
画龙点睛

สมัยราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์หนานเป่ยหรือเหนือใต้ มีจิตรกรคนหนึ่งที่ชำนาญวาดภาพมังกรชื่อจางเซิงเหยา ฝีมือในการวาดภาพมังกรของเขานั้นถึงขั้นยอดเยี่ยมเลิศล้ำที่สุด
南北朝时期的梁朝,有一位善长画龙的大画家名叫张僧繇,他的画龙技术非常高超。

ครั้งหนึ่ง จางเซิงเหยาวาดภาพมังกรสีขาวสี่ตัวบนกำแพงวัดอานเล่อเมืองจิงหลิง(ภูเขาชิงเหลียงเมืองนานกิงมณฑลเจียงซูในปัจจุบัน) เรื่องที่แปลกประหลาดก็คือ มังกรทั้งสี่ตัวนี้ล้วนไม่ได้แต้มนัยน์ตา ผู้คนจำนวนมากรู้สึกข้องใจถามเขาว่า “ ท่านวาดมังกรเหตุไฉนไม่แต้มนัยน์ตา หรือว่าการแต้มนัยน์ตามังกรนั้นเป็นเรื่องยากมาก? ”
有一次,张僧繇在金陵(今江苏省南京市清凉山)安乐寺的墙壁上画了四条白龙,奇怪的是,那四条白龙都没有眼睛。人们疑惑不已,纷纷问道,“为什么您画的龙都没有眼睛呢,难道点上眼睛非常难吗?”

จางเซิงเหยาตอบอย่างเอาจริงเอาจังว่า “ การแต้มนัยน์ตาให้มังกรนั้นง่ายมาก แต่เมื่อแต้มเข้าไปแล้ว มังกรก็จะทะลายกำแพงบินหนีไป ” ทุกคนเมื่อได้ฟังคำตอบของเขาต่างไม่เชื่อ ต่างต้องการให้เขาแต้มนัยน์ตาให้มังกร ดูซิว่ามังกรบนกำแพงจะทะยานบินหนีไปอย่างที่เขาว่าหรือไม่ ดังนั้น เขาจึงได้แต่ถือพู่กันเริ่มแต้มนัยน์ตาให้มังกร
张僧繇认真回答道,“给龙点上眼睛并不难,但如果点上眼睛,龙就会破壁而飞。”大家听后都不相信,让他为龙点上眼睛,想看看龙是否会像他所说的那样腾空而飞。于是,张僧繇提笔为龙点上了眼睛。

หลังจากนั้นเรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ขณะที่เขาเพิ่งแต้มนัยน์ตาให้กับมังกรตัวที่สองบนกำแพงท้องฟ้ามืดครึ้มพลันเกิดฟ้าแลบแปลบปลาบเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าดังกึกก้องกัมปนาท และแล้วพายุฝนก็สาดเทลงมาอย่างหนักทุกคนเห็นว่ามังกรสองตัวบนกำแพงที่ถูกแต้มนัยน์ตา บินหายไปจริงๆ
奇怪的事情果然发生了,当他刚为墙上的第二条龙点上眼睛时,天空突然乌云密布、电闪雷鸣,随后大雨倾盆而下,大家看到被点上眼睛的两条龙果真破壁而飞了。

จากนิทานเรื่องนี้ทำให้เกิดสำนวน “ วาดมังกรแต้มนัยน์ตา ” ที่ภาษาจีนอ่านว่า “ฮว่า หลง เตี่ยน จิง”ซึ่งใช้มาอุปมาการพูดจา หรือการเขียนบทความ ถ้าสามารถใช้คำคมสักสองสามประโยคตรงใจความสำคัญของเรื่อง หรือมีการเกลาสำนวนให้เนื้อหาน่าอ่านมีชีวิตชีวา ประเด็นของเรื่องมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ก็จะกล่าวว่า “ วาดมังกรแต้มนัยน์ตา ”
后来人们根据这个故事引申出“画龙点睛”这句成语,用来比喻说话或者写文章,用上几句精辟的语言,点明要旨,能使内容更加生动形象,从而突显主题,这就是“画龙点睛”。

 

本双语文章的中文翻译系沪江泰语原创内容,转载请注明出处。中文翻译仅代表译者个人观点,仅供参考。如有不妥之处,欢迎指正。