最近泰国媒体上出现了很多这样的报道:前往泰国旅游的外国游客总量较去年大幅下滑,尤其是中国游客。这种现象的产生也让泰国政府和泰国旅游的负责机构非常担心,泰国会不会已经不是中国游客或者其他国家游客的首选?到底是什么原因导致泰国丢失了大量的国外游客呢?一起通过下面的内容来找找原因。

ราคาชาวต่างชาติ = ฉวยโอกาส บวกราคาเกินจริง
外国人“专价”=趁机哄抬价格

พอเห็นคำนี้ หลายคนน่าจะเดาได้ว่า “ราคาชาวต่างชาติ” ที่ว่านั้น หมายถึง ราคาอาหาร และค่าบริการขนส่งสาธารณะในเมืองท่องเที่ยวสุดฮิตของประเทศ ที่มักมีการแบ่งเรทราคาเป็น “ราคาคนไทย” และ “ราคาชาวต่างชาติ” อยู่เสมอ ทำให้ราคาอาหารหรือบริการในสถานที่ท่อวเที่ยวดังกล่าวถีบตัวสูงจนน่าตกใจ ดังเช่นข่าวนักท่องเที่ยวจีน ร้องเรียน หลังถูกร้านอาการแห่งหนึ่งในเมืองภูเก็ต โกงน้ำหนักเมนูกุ้ง จากที่ระบุ กุ้งจานหนึ่ง ราคา 300 บาท แต่พอคิดเงิน กับราคา 3,000 บาท โดยอ้างว่า ราคา 300 บาท เป็นราคาต่อขีด
看到这个词,很多人应该明白“外国人专价”就是意味着国内著名旅游景点里的食物价格和服务费用,分为“泰国人专价”和“外国人专价”两种价格,两种价格之间存在着令人震惊的差别,比如一位中国游客在普吉岛的一家餐厅被骗,店家在虾的重量上对游客进行了欺诈,标价为每盘300泰铢,但是收钱的时候却变成了3000泰铢,借口是300泰铢只是每100克的重量。

 

ชาวจีน เริ่มหันไปเที่ยวประเทศอื่น ๆ
中国游客开始转向其他国家

แม้ไม่อยากเชื่อว่า สงครามของ 2 ยักษ์ใหญ่ของโลก อย่างสงครามเศรษฐกิจสหรัฐ-จีน ที่มีประเด็นก่อหวอดกันแทบทุกวัน ทำการท่องเที่ยวไทยสะดุด หลังความสัมพันธ์จีนกับญี่ปุ่นดีขึ้น ส่งผลให้ชาวจีนเลือกเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น และไม่ได้มีแต่ญี่ปุ่นเท่านั้น ที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางของชาวจีน กระทั่งเกาหลีใต้ ก็กลายเป็นอีกประเทศที่ชาวจีนเลือกตีตั๋วไปเที่ยว
虽然不愿意相信,世界上的两个“巨头”中国和美国之间的经济博弈确实导致了泰国旅游业不得不看别人脸色行事。在中国和日本的关系回暖后,使得前往日本旅行的中国人数量增多。不仅仅是日本成为了中国游客的目的地,韩国也成了中国人非常喜欢去的又一个国家。

 

คนไทยใช้จ่ายน้อยลง ไม่ใช่ไม่มีเงิน แค่ไม่มั่นใจอนาคต
泰国人消费减少,不是缺钱,而是缺乏对未来的信心

อาจเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศ และเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ส่งผลให้คนไทย เริ่มลดทอนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป และหนึ่งในนั้น คือ การท่องเที่ยวตามเมืองหลักและเมืองรอง ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต้องการกระจายรายได้ไปยังเมืองท่องเที่ยวเหล่านี้ โดยคนไทยส่วนใหญ่ หันมาออมเงิน และลงทุนกับการซื้อกองทุน และพันธบัตรรัฐบาลมากขึ้น
可能是国内经济低迷,再加上国际经济的不稳定,都导致了泰国人减少了在生活当中不必要的支出,这部分支出的一部分就包括在旅游方面的花费,泰国旅游和体育部的政策是鼓励泰国人前往一线和二线城市旅游消费,但是大部分泰国人反而选择去存钱、购买基金或者政府的债券。

 

เป็นประเทศที่ไม่ปลอดภัย สำหรับการท่องเที่ยว
泰国并不是一个在旅游方面绝对安全的国家

จากเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ช่วงปี 2561 ที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลก อย่างเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวจีน กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของประเทศ ถึง 2 ครั้งซ้อนในเวลาไล่เลี่ยกัน
2018年在国外游客身上发生的恶性事件已经成为了全球的热点,比如说接连发生在来泰旅游的主力军中国游客身上的两件事:

วันที่ 5 กรกฎาคม 2561 : โศกนาฏกรรมเรือล่มที่ภูเก็ต ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิต 47 ราย และบาดเจ็บ 37 ราย
2018年7月5日:普吉岛沉船,47名中国游客丧生,37人受伤;

วันที่ 27 กันยายน 2561 : เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานดอนเมือง ทำร้ายนักท่องเที่ยวจีน หลังนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวถูกปฏิเสธวีซ่าเข้าเมือง เหตุแสดงเอกสารไม่ครบ เมื่อถูกควบคุมตัว จึงไม่พอใจ และพยายามหลบหนี กระทั่งเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมตัวอันนำไปสู่การใช้ความรุนแรง (แบบเกินกว่าเหตุ)
2018年9月27日:廊曼机场的安保人员殴打中国游客,这名游客因资料不全被拒绝入境,人身自由被控制之后不满意试图逃跑,机场工作人员于是对其使用超出范围的武力。

แต่กระแสข่าวแง่ลบที่เกิดขึ้นยังไม่ทันจางดี ในวันที่ 12 ธันวาคม 2561 ก็เกิดข่าวฉาวขึ้นอีก เมื่อดาบตำรวจ สน.ลุมพินี ยิงนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสเสียชีวิต หลังทะเลาะวิวาทกัน และด้วยเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นติด ๆ กัน ไม่แปลกที่ภาพลักษณ์ของไทย จะติดลบในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ จนส่งผลให้ยอดนักท่องเที่ยวลดลงเช่นนี้
这些负面的新闻还没有平息,在2018年12月12日又产生了让人失望的消息,曼谷伦披尼警察局的一名泰国警察在争吵后开枪打死了一位法国游客。由于这些接连发生的恶性事件,一点都不奇怪泰国在国外游客眼中的形象会变的如此负面,也就导致了国外游客数量的大幅下滑。

 

声明本双语文章的中文翻译系沪江泰语原创内容转载请注明出处。中文翻译仅代表译者个人观点仅供参考。如有不妥之处欢迎指正。