“铁杵成针”比喻每一种工作都会遇到障碍,不管有多么困难,只要有耐心和努力就能将事情实现。同学们,在泰语的学习路上,你有遇到过困难吗?一起跟着小编读一下泰文版的“铁杵成针”吧!

หลี่ไป๋เป็นกวีเอกที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยราชวงศ์ถังของจีนเล่ากันว่า สมัยที่ยังเป็นเด็กหลี่ไป๋เป็นคนซุกซนมากและไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ
唐朝著名大诗人李白小时候不喜欢念书,常常逃学,到街上去闲逛。


วันหนึ่ง หลี่ไป๋อ่านหนังสืออยู่ในบ้าน  แต่ไม่ว่าจะท่องอย่างไรก็จำบทเรียนไม่ขึ้นใจเสียที  เขาหมดความอดทนจึงวางหนังสือลงแล้ววิ่งออกไปเล่นนอกบ้าน
有一天,李白在家里读书。但无论怎么读,都记不住,于是他不耐烦地扔下书,跑到外面玩了。


หลี่ไป๋เดินไปถึงริมแม่น้ำ มองเห็นหญิงชรานางหนึ่งกำลังทำท่าทางถูอะไรบางอย่างอยู่  เขาจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆและก็ต้องประหลาดใจ ที่แท้หญิงชรานางนั้นกำลังใช้เหล็กท่อนหนึ่งฝนกับก้อนหิน
李白跑到河边,看到一位老奶奶做着磨的动作。他凑上前去便惊讶了,老奶奶用磨刀石和铁杵磨着。


“คุณยายฝนเหล็กไปทำไม?”
“老奶奶,你为什么磨铁杵?”


“ยายจะฝนเหล็กท่อนนี้เป็นเข็มปักดอกไม้ให้ลูกสาว”  หญิงชราตอบพลางก้มหน้าก้มตาฝน
“因为我想磨纯手工的绣花针给女儿。”老奶奶说。


“อะไรนะ!” หลี่ไป๋ฟังแล้วยิ่งรู้สึกงง  จึงถามต่อไปอีกว่า “เหล็กท่อนใหญ่ขนาดนั้นจะฝนให้กลายเป็นเข็มปักดอกไม้ได้อย่างไร?”
“绣花针?”李白又问:“是缝衣服用的绣花针吗?”


หญิงชราจึงตอบอย่างขึงขังว่า “เด็กน้อย  เจ้าอย่าเห็นว่านี่เป็นเหล็กท่อนใหญ่  ถ้ายายฝนมันทุกวัน มันก็จะค่อยๆบางลง และในที่สุดมันก็จะถูกฝนจนกระทั่งกลายเป็นเข็ม”
“当然!”老婆婆反问李白:“滴水可以穿石,愚公可以移山,铁杵为什么不能磨成绣花针呢?”


หลี่ไป๋รู้สึกว่าหญิงชราพูดถูก  คำพูดดังกล่าวทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจจึงโค้งคำนับหญิงชราแล้วรีบวิ่งกลับบ้าน
李白觉得老奶奶说的对,深受启发。他向老奶奶鞠了一躬,便冲回了家。


เมื่อหลี่ไป๋กลับถึงบ้านก็รีบหยิบหนังสือที่เพิ่งวางลงเมื่อสักครู่ขึ้นมาท่อง รอบแล้วรอบเล่า  ค่อยๆจดจำไปทีละบททีละตอน  และในที่สุดก็สามารถท่องจำขึ้นใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว  นับแต่นั้นมา  หลี่ไป๋ก็ไม่เล่นซุกซน เขาตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือด้วยความมานะบากบั่น และกลายเป็นกวีที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเวลาต่อมา
当李白回到家,马上拿起一本书,一口气读完了。他一步步地记诵,将书本只是烂熟于心。李白狂热地学习,最终成为了一代著名诗人。

 

ต่อมา  สำนวน ‘ฝนทั่งให้กลายเป็นเข็ม’ ก็นำมาใช้ในการอุปมาว่า งานทุกอย่างไม่ว่าจะยากลำบากหรอมีอุปสรรคมากแค่ไหนก็ล้วนแต่สำเร็จลงได้ด้วยความอดทนและมานะพยายาม
“铁杵成针”比喻每一种工作都会遇到障碍,不管有多么困难,只要有耐心和努力就能将事情实现。

声明:沪江网高度重视知识产权保护,发现本网站发布的信息包含有侵犯其著作权的链接内容时,请联系我们,我们将做相应处理。

点击阅读更多泰语故事>>