男儿有泪不轻弹?眼泪是自己的弱点?哭泣是懦夫的表现?“坚强的孩子不能哭”是很多家长从小就灌输给孩子们的观念,使得不知从什么时候开始,忍住不哭成为了一种听话、懂事、坚强的表现了。每个人都有哭诉,流泪的权利,每个人都有着自己的弱点,不必压抑,勇敢大方地做自己,表达自己的情绪,这才是父母,社会应该灌输给小孩的观念。


(香波妈 Chompoo 的 Saifha 飓风宝)

文章带读:
(音频-可在沪江泰语公众号上收听)
朗读:(泰)ศิริวัช หวังสม
 

ที่จริงแล้วไม่ใช่แค่บ้านเราเท่านั้นที่มีความเชื่อแบบนี้ ในหลาย ๆ วัฒนธรรมทั่วโลกล้วนชื่นชมยกย่องเด็กที่ไม่ร้องไห้ เข้มแข็ง และไม่ค่อยอดทนกับเสียงงอแงของเด็ก ๆ เพราะรู้สึกว่ามันไร้สาระ ร้องไห้อีกแล้ว เรื่องแค่นี้เอง ร้องทำไม “หยุดร้องได้แล้วน่ารำคาญ!” กลายเป็นประโยคติดปากผู้ใหญ่และทำร้ายจิตใจของเด็ก ๆ มากมายนับไม่ถ้วน
其实不只是我们国家有这种观念,在世界各地的诸多文化中,都推崇赞赏不哭、坚强的孩子,不太能容忍太孩子气的那种声音,因为他们觉得那是些废话,因为这种小事又哭了,哭什么啊,而“别哭了,真烦!”变成了大人们的口头禅,伤了无数孩子的心。

การ ‘อดกลั้น’ และ ‘กดทับ’ ความรู้สึกที่แย่ ๆ เอาไว้ข้างในดูจะเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกันอย่างดี มันจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่ในตอนนี้เราเห็นคนให้ความสนใจกับผู้อื่นน้อยลง เอาตัวเองเป็นหลัก และไม่ค่อยคิดถึงความรู้สึกของคนอื่น ในรายกายพอดแคสท์ “Speaking of Psychology” ตอนหนึ่ง (The decline of empathy and the rise of narcissism) ที่พูดถึงเรื่องของ “Empathy” หรือ “ความเห็นอกเห็นใจ” ที่งานวิจัยบ่งบอกว่าตอนนี้คนส่วนใหญ่จะสนใจคนอื่นน้อยลงกว่าเดิม และจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตัวเองคิดเท่านั้น ความรู้สึกที่มนุษย์คนอื่นมีอยู่ข้างในมักถูกมองข้ามและละเลย ส่วนอารมณ์ความรู้สึกทางด้านลบของตัวเองก็พยายามกดไว้ (โดยเฉพาะความโกรธหรือความเศร้า) เพราะเราอยู่ในสังคมที่การแสดงอารมณ์เหล่านั้นออกมากลายเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ แสดงถึงความอ่อนแอของจิตใจและไม่น่าสนใจ ทั้ง ๆ ที่มันควรได้รับการดูแลเอาใจใส่โดยเฉพาะในวัยเด็กที่พวกเขายังไม่รู้วิธีจัดการกับอารมณ์เหล่านั้นยังไง
“忍耐”、“压制”内心的坏情绪似乎是我们再熟悉不过的事情了。因此,我们现在看到人们对他人的关注越来越少,以自己为主,不太关注他人的情绪,也就不足为奇了。在 Body 播客“Speaking of Psychology”中,有一集(同理心的下降和自恋的兴起)讨论了“同理心”或“同情心”,研究表明,现如今的大部分人对他人的兴趣比以前少了,并且只会专注于自身的想法,而其他人内心的感受往往被忽视,至于自己的负面情绪,只会尽量压抑,(尤其是愤怒或悲伤),因为我们生活在一个如果表达这些情绪会变得不受欢迎的社会。当表现出内心的脆弱时,并不会受到关注,即使应该受到关照,尤其是在儿童这个还不知道如何处理情绪的年纪时。

น้ำตาจากการร้องไห้หรือน้ำตาที่เกิดจากอารมณ์ต่าง ๆ มีส่วนประกอบทางเคมีอะดรีโนคอร์ติโคโทรพิก (Adrenocorticotropic Hormone, ACTH) ฮอร์โมนที่ควบคุมระดับความเครียดและ ลู เอ็นคีฟาลิน (Leu Enkephalin) ซึ่งทำหน้าที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดเหมือนเป็นยาแก้ปวดตามธรรมชาติ ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ว่าร้องไห้แล้วทำไมเราถึงรู้สึกดีขึ้น
哭泣或情绪化的眼泪中含有一种促肾上腺皮质激素的化学物质,促肾上腺皮质激素 (ACTH) 是一种调节压力水平的激素,而Leu 脑啡肽是一种天然的止痛药,这就是为什么哭泣让我们感觉更好的原因。

น้ำตาจึงช่วยให้เราสงบลงเพื่อจะได้ตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดอารมณ์เหล่านั้น ความโกรธหรือเศร้าเป็นการตอบสนองของร่างกายเพื่อเอาตัวรอด อารมณ์ทำให้เกิดการกระทำที่ตามเพื่อ ให้เราแก้ไขสถานการณ์ ปรับตัว เติบโตและพัฒนาขึ้นในครั้งต่อไป ดังนั้นเมื่ออารมณ์ของเราถูกกดทับโดยพยายามกลั้นเอาไว้หรือปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีใครดูแล พวกมันก็สามารถเริ่มกัดกินความสุขทั้งทางร่างกายและจิตใจของเราได้เลย เมื่อเราโกรธสะสมก็จะเพิ่มความเครียดไปด้วย และสิ่งที่มีโอกาสจะตามมาคือเมื่อมันเอ่อล้นทะลักก็จะเป็นปัญหาที่ใหญ่ ควบคุมไม่อยู่ บางทีก็ในเวลาและสถานที่ที่ไม่เหมาะสมด้วย อย่างถ้าเราเห็นว่าเด็ก ๆ ร้องไห้อย่างไม่มีเหตุผลหรือปลอบยังไงก็ไม่หยุด บางทีมันมีต้นตอที่ฝังอยู่ในอดีตที่เขาพยายามกลั้นเอาไว้มานานแล้วก็ได้

眼泪帮助我们冷静下来,以便对触发这些情绪的情况做出反应。愤怒或悲伤是身体的本能反应。情绪会导致接下来的行动,这样我们才能在下一次纠正这种情况、适应、成长和改进。因此,当我们的情绪因试图抑制或不理会它们而受到抑制时,它们就会开始吞噬我们的身心快乐。随之而来的可能是当它溢出时,有时是在错误的时间和地点,将会是一个很大的失控问题。例如,如果我们看到我们的孩子无缘无故地哭泣或者怎么安慰也不停息时,例如,如果我们看到孩子无缘无故哭泣或停止安慰他们,或许这是埋藏在过去的根,只是他努力压抑了很久。

เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ที่เราเห็นลูก ๆ กำลังกำหมัดด้วยความโกรธ พยายามกลั้นน้ำตาเพราะความเศร้า ลองคุกเข่าลงไปข้างหน้าเขาและดึงเขามากอดแล้วบอกว่า “ร้องไห้ได้นะลูก มันไม่เป็นไร ร้องไห้เป็นเรื่องที่โอเค”
所以当我们看到我们的孩子愤怒地握紧拳头, 努力忍住悲伤的泪水时,试着屈膝在他面前,把他拉过来拥抱,然后说, “你可以哭宝贝,没关系,哭也没关系。”

在哭泣时给予鼓励和安慰,是绝对有用的事,这不仅仅适用于孩童,大人们也适用,谁都有哭泣的权利。

声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自sanook,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。