ใกล้เที่ยงแล้วเมื่อรถเลี้ยวเข้าซอยเล็กที่แยกจากถนนใหญ่อันจอแจ ในทันทีนั้น การจราจรหนาแน่นเหมือนถอยห่างไปไกลกะทิเห็นคลองเล็ก ๆ คู่ขนานไปกับถนนอยู่ทางขวามือ มีต้นก้ามปูขึ้นเป็นระยะ ไม่มีอะไรเหมือนบ้านชายทะเลที่จากมาและแตกต่างอย่างลิบลับกับริมคลองที่กะทิยังไม่กลับไปในตอนนี้ กระนั้นบ้านกลางเมืองก็ดึงดูดความสนใจของกะทิตั้งแต่นาทีแรกที่ย่างเท้าเข้ามา
ห้องโถงกลางปูหิน เสียงส้นรองเท้าของน้าฎาก้องสะท้อนอยู่ในความเงียบ กะทิเดินตามน้าฎาขึ้นลิฟต์ไปชั้นสิบสาม น้ากันต์หันมาบอกว่า แม่ชอบเลขสิบสามตอนมาซื้อห้องชุดที่ก็ถูกใจที่มีห้องว่างชั้นสิบสามพอดี
น้าฎากัดริมฝีปากก่อนจะส่งพวงกุญแจรูปดาวสีแดงให้กะทิไขเปิดเอง “พี่ภัทรสั่งไว้ให้ทิเป็นคนไขประตู” กะทิได้ยินเสียงน้าฎาหันไปพูดค่อย ๆ กับน้ากันต์ ดูเหมือนว่าแม่จะวาดภาพสิ่งต่าง ๆที่จะเกิดขึ้นหลังแม่จากไปแล้วโดยละเอียดกะทิไม่รู้สึกอึดอัด กลับรู้สึกเหมือนมีแม่อยู่ใกล้ๆ ช่วยคลายความรู้สึกโหวงเหวงว่างเปล่าในอกลงไปได้บ้าง
ประตูไม้สีเขียวมะกอกเปิดออกตามแรงผลักของกะทิเวลาผ่านไปนานแค่ไหนนะ นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่แม่มีแรงเปิดประตูเอง

接近正午,当车子拐进一条由大路分出来的小巷时,就在那一瞬间,糟糕的交通和喧嚣的一切仿佛都向后退得很远很远。佳媞见一条小小的水渠由右手边和这条小路平行着,路途中时不时能看见榕树。此刻佳媞觉得,这里和刚刚离开的海边小屋,以及还没来得及回去的河畔的家有着极大的差别。自从佳媞踏进这个坐落于城里的家时,关于这个家的一切都在吸引着佳媞的好奇心。
公寓大厅的地板上铺着大理石,帕舅舅的脚步声回荡在整个大厅里。佳媞跟在帕舅舅身后进了电梯,上了十三层。绀舅舅扭头说,妈妈喜欢十三这个数字,来买房子的时候就正好有第十三层的空房。
在把那串挂着红色星星钥匙扣的钥匙交给佳媞亲自打开门之前,帕舅舅一直轻轻咬着嘴唇。“姐姐帕塔拉叮嘱过,要让佳媞来打开这里的门。”佳媞听见帕舅舅扭头对绀舅舅轻声说道。这一切看上去就仿佛妈妈把自己离开后的一切都事先画了下来,佳媞感觉到很压抑。但同时,又仿佛能够感觉到妈妈就在身边,多多少少缓解了胸口里那种轻飘飘的空虚感。
佳媞缓缓推开了那扇橄榄绿的门。从上次妈妈还能亲自推开这扇门时算起,时间过去了多久呢?

 

 点击查看更多此系列文章>>